hidden divergence คืออะไร การใช้งาน hidden bullish และ bearish divergence ในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน

hidden divergence คืออะไร

ในการวิเคราะห์กราฟราคาในการซื้อขายหุ้น และตลาดทางการเงินอื่น ๆ นักลงทุนมักจะใช้หลักการของการระบุแนวโน้มและสัญญาณการซื้อขายต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจการลงทุนหรือการซื้อขาย หนึ่งในแนวทางในการตรวจสอบแนวโน้มของราคาคือโครงร่างหรือการดูแนวโน้มที่ซ่อนอยู่ในการกระจายของราคา ซึ่งสามารถเรียกว่า “hidden divergence” หรือ “ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่” ซึ่งเป็นสัญญาณที่ช่วยให้ผู้ซื้อขายรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาและตัวชี้วัดที่ใช้ในการวิเคราะห์เทคนิค เช่น แนวรับ-แนวต้าน หรือตัวชี้วัดอื่น ๆ

ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่นั้นหมายถึงความแตกต่างระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาและตัวชี้วัดที่ไม่สามารถเห็นได้ง่าย โดยทั่วไปแล้วจะมีสองประเภทของความแตกต่างที่ซ่อนอยู่คือ

  1. Hidden Bullish Divergence (ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ของการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางขึ้น): ปรากฏเมื่อราคาสูงขึ้น แต่ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวิเคราะห์เทคนิคแสดงว่าราคาต่ำลง หรือไม่ได้มีการสร้างต่อเนื่องกับค่าตัวชี้วัด
  2. Hidden Bearish Divergence (ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ของการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางลง): ปรากฏเมื่อราคาต่ำลง แต่ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวิเคราะห์เทคนิคแสดงว่าราคาสูงขึ้น หรือไม่ได้มีการสร้างต่อเนื่องกับค่าตัวชี้วัด

Hidden Bullish Divergence คืออะไร

Hidden Bullish Divergence หมายถึงความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ของการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางขึ้น รูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อมีแนวโน้มของราคาที่ลดลง (ลงตาม trend) ในเวลาเดียวกับที่ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น แนวรับ-แนวต้าน หรืออินดิเคเตอร์ต่าง ๆ กล่าวถึงสัญญาณการแนะนำให้มีความเชื่อมั่นว่า แนวโน้มของราคาอาจจะกลับสู่ทิศทางขึ้นหรือขึ้นต่อไปอีกครั้ง

ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการระบุการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของราคา แต่มีความแตกต่างอยู่ระหว่างการเคลื่อนไหวของราคาและตัวชี้วัดทางเทคนิค ซึ่งอาจช่วยให้นักลงทุนและเทรดเดอร์เห็นแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต

ตัวอย่างของ Hidden Bullish Divergence

Hidden Bullish Divergence เป็นสัญญาณทางเทคนิคที่แสดงถึงความเป็นไปได้ของการกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นในตลาดฟอเร็กซ์ นี่คือตัวอย่างของ Hidden Bullish Divergence ในกราฟราคาแบบเทียนของคู่สกุลเงิน EUR/USD

      1. แนวโน้มราคา: ราคากำลังลดลง
      2. ตัวชี้วัดเทคนิค: เราให้ความสนใจในตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับการแสดงแนวโน้มหรือการแตกต่างระหว่างราคาและตัวชี้วัด เช่น Moving Average, RSI (Relative Strength Index) , Stochastic Oscillator เป็นต้น
      3. ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่: ในกรณีนี้, แนวโน้มของราคาอาจเป็นลงตามแต่ตัวชี้วัดยังแสดงค่าที่มากขึ้นหรือเท่าเดิม

ดังนั้นตัวอย่างการ Hidden Bullish Divergence:

      • แนวโน้มราคา: ราคา EUR/USD กำลังลดลง
      • ตัวชี้วัดเทคนิค: RSI (Relative Strength Index) หรือตัวชี้วัดอื่น ๆ ที่ใช้ในการวัดความเข้มของการเคลื่อนไหวราคา
      • ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่: RSI กำลังแสดงค่าที่ต่ำลง แต่ราคาของ EUR/USD กำลังสูงขึ้นหรือเคลื่อนที่ในทิศทางขึ้น

นักเทรดเดอร์ที่ใช้การวิเคราะห์เทคนิคอาจจะมองเห็น Hidden Bullish Divergence เป็นสัญญาณว่าราคา EUR/USD อาจจะมีโอกาสกลับสู่แนวโน้มขาขึ้นในอนาคต

Hidden Bearish Divergence คืออะไร

Hidden Bearish Divergence หมายถึงความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ของการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางลง รูปแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อมีแนวโน้มของราคาที่ขึ้น (ขึ้นตาม trend) ในเวลาเดียวกับที่ตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น แนวรับ-แนวต้าน หรืออินดิเคเตอร์ต่าง ๆ กล่าวถึงสัญญาณการแนะนำให้มีความเชื่อมั่นว่า แนวโน้มของราคาอาจจะกลับสู่ทิศทางลงหรือลงต่อไปอีกครั้ง

ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่ของการเคลื่อนไหวของราคาในทิศทางลงหรือ “Hidden Bearish Divergence” เป็นสัญญาณทางเทคนิคที่เกิดขึ้นเมื่อราคาของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ใด ๆ มีการสร้างสูงขึ้น แต่ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวิเคราะห์เทคนิคแสดงให้เห็นว่าราคาของสินทรัพย์นั้นต่ำลงหรือไม่ได้เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มของตัวชี้วัดนั้น ๆ

ตัวอย่างของ Hidden Bearish Divergence

สมมติว่าคุณกำลังวิเคราะห์กราฟราคาหุ้น XYZ และคุณพบกับ Hidden Bullish Divergence ระหว่างราคาและตัวชี้วัด RSI (Relative Strength Index) ที่แสดงสัญญาณการเพิ่มขึ้นของราคาในอนาคต

      1. ราคาสูงขึ้น: ในกราฟราคาสกุลเงินเช่น EUR/USD คุณสังเกตเห็นว่าราคาของสกุลเงินได้เคลื่อนขึ้นในระยะเวลาหนึ่ง ๆ แสดงว่ามีแรงซื้อเข้ามากขึ้นในตลาด
      2. ตัวชี้วัดไม่เพิ่มขึ้นตามราคา: ในเวลาเดียวกัน คุณสังเกตเห็นว่าตัวชี้วัดเทคนิคบางตัว เช่น แบบว่ายน้ำ (Moving Average) หรือตัวชี้วัดอื่น ๆ ไม่ได้เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มของราคา หรือบางครั้งอาจแสดงว่าราคากำลังเบี่ยงเบนหรือมีความหนาแน่นของการขาย
      3. ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่: สัญญาณ Hidden Bearish Divergence ถูกพบเมื่อมองหาความแตกต่างระหว่างแรงขับของราคาที่กำลังเคลื่อนขึ้นและแรงขับของตัวชี้วัดเทคนิค ถ้าราคาสร้างราคาสูงขึ้นในขณะที่ตัวชี้วัดไม่แสดงเท่านั้น นี่คือสัญญาณความแตกต่างที่ซ่อนอยู่

ดังนั้นตัวอย่างการHidden Bearish Divergence:

      • แนวโน้มราคา: ราคากำลังลดลง
      • ตัวชี้วัดเทคนิค: แสดงว่ามีความแตกต่างระหว่างค่าของตัวชี้วัดและแนวราคาของราคาที่ลดลง
      • ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่: แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มของราคาอาจจะกลับสู่ขึ้นหรือเริ่มขึ้นใหม่

Hidden Bullish Divergence จะเป็นสัญญาณที่ชี้ว่าแม้แนวโน้มราคาจะกำลังลดลงในเวลานั้น แต่มีความเป็นไปได้ที่ราคาจะกลับสู่การขึ้นอีกครั้งในอนาคต หากมีสัญญาณเส้นทางขึ้นเพิ่มขึ้นร่วมกับสัญญาณอื่น ๆ เช่น แนวรับ-แนวต้านหรือรูปแบบเทคนิคอื่น ๆ จะช่วยยืนยันความเป็นไปได้ของการเริ่มแนวโน้มขึ้นในอนาคตด้วยเช่นกัน

การใช้งาน hidden bullish ในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน

การใช้งาน Hidden Bullish Divergence ในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนเป็นการตรวจสอบแนวโน้มและสัญญาณที่อาจเป็นสัญญาณกำเนิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของราคาในอนาคต ด้วยการใช้รูปแบบและแนวทางทางเทคนิคที่สำนักงานการเงินและนักเทรดมืออาชีพใช้ เราสามารถใช้งาน Hidden Bullish Divergence ในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียนได้ดังนี้:

    1. ตรวจสอบแนวโน้มราคา: ก่อนอื่นให้ตรวจสอบว่าแนวโน้มราคาในเวลาย่อยหรือยาวในกราฟแท่งเทียนกำลังแสดงแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคา ว่าเป็นแนวโน้มขึ้น หรือขึ้นตามทิศทางของแนวโน้มหลัก
    2. ตรวจสอบตัวชี้วัดเทคนิค: ต่อมาคุณจะต้องตรวจสอบตัวชี้วัดเทคนิค เช่น RSI, MACD, Stochastic Oscillator เป็นต้น เพื่อดูว่ามีสัญญาณความแตกต่างที่ซ่อนอยู่หรือไม่ ความแตกต่างที่ซ่อนอยู่จะแสดงว่าแนวโน้มของราคาและตัวชี้วัดเทคนิคไม่สอดคล้องกัน
    3. การคาดการณ์: หากคุณพบ Hidden Bullish Divergence ระหว่างราคาและตัวชี้วัดเทคนิค เช่น การเริ่มแนวโน้มการขึ้นของราคา คุณอาจคาดการณ์ว่าราคาอาจจะเปลี่ยนแนวโน้มจากการลดลงเป็นการขึ้น และในบางครั้งอาจเป็นสัญญาณที่ช่วยให้คุณเตรียมตัวกับการซื้อหรือเพิ่มตำแหน่งการลงทุนในทิศทางของราคาที่เปลี่ยนแปลง
    4. การยืนยัน: การใช้ Hidden Bullish Divergence ควรรอการยืนยันจากสัญญาณอื่น ๆ เช่น การข้ามสายแนวรับหรือการทราบข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อราคา การใช้ตัวชี้วัดเพิ่มเติม และรูปแบบเทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจในการตัดสินใจ
    5. การเปรียบเทียบสูงสุด (Highs) และตัวชี้วัดเทคนิค: เพื่อระบุ Hidden Bullish Divergence คุณควรจะเปรียบเทียบสูงสุดของราคาในกราฟแท่งเทียนกับค่าของตัวชี้วัดเทคนิค เช่น หากราคามีแนวโน้มลดลง แต่ตัวชี้วัดเทคนิคมีค่าต่ำขึ้น หรือแสดงสัญญาณความแตกต่างที่เชื่อมโยงกับแนวราคาสูงสุด นั่นอาจเป็นสัญญาณของ Hidden Bullish Divergence
    6. การวาดเส้นแนวโน้ม: วาดเส้นแนวโน้มของราคาและแนวราคาสูงสุดที่มีการเปลี่ยนแปลงเชื่อมโยงกัน จากนั้นวาดเส้นแนวโน้มเชิงลบของตัวชี้วัดเทคนิคเช่น RSI เพื่อดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงในตัวชี้วัด
    7. การเรียงสัญญาณ: ควรตรวจสอบว่าสัญญาณการแตกต่างที่ซ่อนอยู่มาพร้อมกับสัญญาณเส้นแนวโน้มการขึ้นของราคา และรายละเอียดอื่น ๆ เพื่อให้ได้ภาพรวมที่มั่นใจ
    8. การติดตามเทรนด์: เมื่อ Hidden Bullish Divergence ถูกตรวจพบและมีสัญญาณที่ชี้ว่าราคาอาจจะกลับสู่การขึ้น คุณควรติดตามแนวโน้มราคาต่อไปเพื่อดูว่าคาดการณ์ของคุณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของราคามีความถูกต้องหรือไม่

การใช้งาน bearish divergence ในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน

Bearish Divergence หมายถึงความแตกต่างทางเทคนิคที่เกิดขึ้นเมื่อราคาขาขึ้น (แนวโน้มขึ้น) ในขณะที่ตัวชี้วัดเทคนิค อย่างเช่น แนวรับ-แนวต้านหรือตัวชี้วัดอื่น ๆ กล่าวถึงสัญญาณที่ช่วยรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในแนวโน้มของราคา โดยส่วนมาก Bearish Divergence จะเป็นสัญญาณการระบุว่าแนวโน้มของราคาอาจจะเปลี่ยนเป็นการตกลงหรือลดลงในอนาคต เมื่อใช้งาน Bearish Divergence ในการวิเคราะห์กราฟแท่งเทียน คุณสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้:

    1. ตรวจสอบแนวโน้มราคา: ก่อนอื่นให้ตรวจสอบว่ากราฟแท่งเทียนกำลังอยู่ในแนวโน้มขึ้น (uptrend) หรือไม่ นี่จะเป็นสิ่งสำคัญเพราะเราต้องการตรวจสอบว่า Bearish Divergence อาจเกิดขึ้นหลังจากแนวโน้มขึ้น
    2. ตรวจสอบตัวชี้วัดเทคนิค: ใช้ตัวชี้วัดเทคนิค เช่น RSI (Relative Strength Index) หรือ Stochastic Oscillator เพื่อวัดความเข้มของการเคลื่อนไหวของราคา และดูว่ามีสัญญาณของ Bearish Divergence หรือไม่
    3. หาตัวอย่าง Bearish Divergence: เมื่อราคาขาขึ้นแต่ตัวชี้วัดเทคนิคแสดงสัญญาณต่ำลงหรือแนวต้านที่แข็งแกร่งขึ้น นี่อาจเป็นสัญญาณของ Bearish Divergence
    4. ความแตกต่าง: ในสัญญาณของ Bearish Divergence ค่าตัวชี้วัดเทคนิคจะแสดงสัญญาณของการลดลงหรือแนวต้านที่แข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่ราคายังคงขาขึ้น สัญญาณนี้เป็นความแตกต่างระหว่างแนวโน้มของราคาและตัวชี้วัด
    5. ความเป็นไปได้ของแนวโน้ม: Bearish Divergence อาจเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มของราคาอาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นการตกลงในอนาคต อย่างไรก็ตาม เราควรดูด้วยข้อมูลและตัวชี้วัดอื่น ๆ เพื่อยืนยันสัญญาณนี้และประเมินความเป็นไปได้ของการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของราคา