อิควิตี้ (equity) คืออะไร บัญชี forex มีวิธีคำนวณ equity ที่ต้องใช้อย่างไร

อิควิตี้ (equity) คืออะไร

คำว่า “Equity” ในทางด้านการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) หมายถึงมูลค่าของทรัพย์สินที่เหลืออยู่ในบัญชีการซื้อขายของคุณหลังจากคำนวณรวมกับกำไรและขาดทุนของตลาดปัจจุบัน ซึ่ง Equity จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าคุณมีทรัพย์สินคงค้างอยู่เท่าใดในบัญชีของคุณหลังจากพิจารณาผลกำไรและขาดทุนจากการซื้อขายต่าง ๆ ที่คุณได้ทำไปแล้วในตลาด Forex ในระหว่างเวลาก่อนหน้านั้น

Equity จะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามผลกำไรและขาดทุนในการซื้อขาย หากคุณทำกำไรจากการซื้อขายเงินตรา มูลค่าของ Equity ในบัญชีของคุณจะเพิ่มขึ้น แต่หากคุณขาดทุน Equity จะลดลง เหมือนกับการลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ การซื้อขายในตลาด Forex ก็มีการติดตามผลกำไรและขาดทุน เมื่อคุณทำกำไรจากการซื้อขายเงินตรา รายได้ที่คุณได้รับจะเพิ่มขึ้น และนั่นจะส่งผลให้มูลค่าของ Equity ในบัญชีของคุณเพิ่มขึ้นเช่นกัน ในทางกลับกัน เมื่อคุณขาดทุนจากการซื้อขาย เสียหายทางการเงินที่เกิดขึ้นจะทำให้มูลค่าของ Equity ในบัญชีของคุณลดลง

วิธีคำนวณ equity ที่ต้องใช้อย่างไร

“Equity” ในบัญชีการซื้อขายเงินตราต่างประเทศหมายถึง มูลค่าทั้งหมดในบัญชีของคุณที่รวมถึงเงินฝากเริ่มต้น (Balance) ร่วมกับกำไร (Profit) หรือขาดทุน (Loss) ที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายทั้งหมดที่คุณได้เปิดไว้ในบัญชี ค่านี้รวมถึงเงินที่ใช้เป็น “ส่วนเสริมในการเทรด” หรือ “เงินที่ใช้คุ้มครอง” (Available Margin) ที่ช่วยให้คุณสามารถเปิดตำแหน่งการซื้อขายได้ โดยมีสูตรคำนวณค่า Equity ในบัญชีการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Forex)  ดังนี้

Equity = Balance + จำนวนเงินของพอร์ตที่เป็นบวก – จำนวนเงินของพอร์ตที่ติดลบ

คำอธิบาย:

    • Balance (ยอดคงเหลือ): คือเงินที่คุณมีในบัญชีในขณะนั้น รวมถึงเงินฝากและกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายที่ปิดไปแล้ว (Closed Positions) ในคำนวณ Equity คุณจะใช้ค่านี้.
    • จำนวนเงินของพอร์ตที่เป็นบวก: นี่คือผลรวมของกำไรที่เกิดจากการซื้อขายที่เป็นบวกทั้งหมด ซึ่งคำนวณจากผลต่างระหว่างราคาปัจจุบันของตำแหน่งการซื้อขายและราคาเปิดตำแหน่งการซื้อขายที่เป็นบวก.
    • จำนวนเงินของพอร์ตที่ติดลบ: นี่คือผลรวมของขาดทุนที่เกิดจากการซื้อขายที่เป็นลบทั้งหมด คำนวณจากผลต่างระหว่างราคาปัจจุบันของตำแหน่งการซื้อขายและราคาเปิดตำแหน่งการซื้อขายที่เป็นลบ.

ตัวอย่างของ Equity

  • Balance (ยอดคงเหลือ): 10,000 ดอลลาร์
  • จำนวนเงินของพอร์ตที่เป็นบวก: 2,000 ดอลลาร์
  • จำนวนเงินของพอร์ตที่ติดลบ: 500 ดอลลาร์

 ตามสูตร:    Equity = Balance + จำนวนเงินของพอร์ตที่เป็นบวก – จำนวนเงินของพอร์ตที่ติดลบ

Equity = 10,000 + 2,000 – 500

Equity = 11,500 ดอลลาร์

ดังนั้นในบัญชีการซื้อขาย Forex ของคุณ มูลค่า Equity ในขณะนี้คือ 11,500 ดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงยอดคงเหลือในบัญชี (Balance) ร่วมกับกำไรจากการซื้อขายที่เป็นบวกและหักขาดทุนที่เกิดจากการซื้อขายที่ติดลบทั้งหมด ค่านี้จะแสดงถึงมูลค่าเงินที่คุณสามารถใช้ในการซื้อขายและผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายที่คุณได้ทำทั้งหมดในบัญชีของคุณในเวลานั้น.

    • Balance (ยอดคงเหลือ): 5,000 ดอลลาร์
    • จำนวนเงินของพอร์ตที่เป็นบวก: 1,200 ดอลลาร์
    • จำนวนเงินของพอร์ตที่ติดลบ: 300 ดอลลาร์

ตามสูตร:  Equity = Balance + จำนวนเงินของพอร์ตที่เป็นบวก – จำนวนเงินของพอร์ตที่ติดลบ

Equity = 5,000 + 1,200 – 300

Equity = 5,900 ดอลลาร์

ดังนั้นในบัญชีการซื้อขาย Forex ของคุณ มูลค่า Equity ในขณะนี้คือ 5,900 ดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงยอดคงเหลือในบัญชี (Balance) ร่วมกับกำไรจากการซื้อขายที่เป็นบวกและหักขาดทุนที่เกิดจากการซื้อขายที่ติดลบทั้งหมด ค่านี้จะแสดงถึงมูลค่าเงินที่คุณสามารถใช้ในการซื้อขายและผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายที่คุณได้ทำทั้งหมดในบัญชีของคุณในเวลานั้น.

การใช้งาน Equity

การใช้งานค่า Equity ในบัญชีการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Forex) เป็นสิ่งสำคัญในการวัดผลประสิทธิภาพและการบริหารเงินในการซื้อขายของคุณ นี่คือบางวิธีที่คุณสามารถใช้ค่า Equity ในการบริหารการซื้อขาย Forex:

  1. การตัดสินใจเมื่อค่า Equity เพิ่มหรือลด: เมื่อค่า Equity เพิ่มขึ้นอาจแสดงถึงความสำเร็จในการซื้อขายของคุณ คุณอาจพิจารณาเพิ่มขนาดการซื้อขายหรือเพิ่มสัดส่วนการเรียกเงินทุน ในทางกลับกัน หากค่า Equity ลดลงอาจเป็นสัญญาณให้คุณพิจารณาการลดขนาดการซื้อขายหรือความเสี่ยง
  2. การจัดการการเปิด-ปิดสัญญา: ค่า Equity สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจเมื่อควรจะปิดสัญญาการซื้อขาย เมื่อค่า Equity เพิ่มขึ้น อาจแสดงถึงโอกาสในการเพิ่มกำไรจากสัญญาที่เปิดอยู่ คุณอาจพิจารณาจะปิดสัญญาเพื่อรับกำไร ในทางกลับกัน หากค่า Equity ลดลง อาจจะเป็นสัญญาณให้คุณพิจารณาการปิดสัญญาเพื่อลดขาดทุน
  3. การควบคุมความเสี่ยง: ใช้ค่า Equity เพื่อกำหนดขนาดการซื้อขายที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาด คุณสามารถคำนวณอัตราส่วนระหว่างขนาดสัญญาการซื้อขายและค่า Equity เพื่อให้การเสี่ยงคงอยู่ในระดับที่คุณสามารถรับได้
  4. การวางแผนการซื้อขาย: ค่า Equity ช่วยให้คุณมีแนวทางในการวางแผนการซื้อขายในระยะยาว คุณสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงในค่า Equity เพื่อดูว่ากำไรหรือขาดทุนเกิดขึ้นในระยะเวลานาน และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการปรับแผนการซื้อขายของคุณ
  5. การเรียนรู้และปรับปรุง: ค่า Equity เป็นตัวบ่งชี้ที่ช่วยให้คุณทราบถึงผลของการซื้อขายแต่ละครั้ง ใช้ค่า Equity เพื่อประเมินว่าเรื่องใดที่ทำงานดีและเรื่องใดที่ไม่ดี เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงวิธีการซื้อขายของคุณ
  6. การจัดการเวลา: ค่า Equity สามารถช่วยให้คุณตัดสินใจเรื่องเมื่อควรจะทำการซื้อขาย หรือเมื่อควรจะหยุดการซื้อขาย โดยพิจารณาผลกำไรและขาดทุนในการซื้อขายที่เปิดอยู่ในเวลาต่าง ๆ

ข้อดีและข้อเสียของ Equity

การใช้งานค่า Equity ในการซื้อขาย Forex ควรใช้ร่วมกับการวิเคราะห์อื่น ๆ เพื่อประเมินและบริหารเงินในการซื้อขายอย่างมีความระมัดระวัง ควรเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบริหารเงินและวิธีการวิเคราะห์ตลาดเพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรอบคอบและมีความคาดเดาที่ดีกว่า การใช้งานค่า Equity ในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Forex) มีข้อดีและข้อเสียที่คุณควรพิจารณา

ข้อดีของการใช้งาน Equity

    • วัดผลผลิตให้รู้: ค่า Equity ช่วยให้คุณสามารถวัดผลกำไรและขาดทุนจากการซื้อขายทั้งหมดในบัญชีของคุณได้เป็นปัจจัยสำคัญในการประเมินประสิทธิภาพของกลยุทธ์การซื้อขายของคุณ
    • การบริหารการเงิน: ค่า Equity ช่วยให้คุณตัดสินใจเรื่องขนาดการซื้อขายและการจัดการการเปิด-ปิดสัญญา เพื่อควบคุมการเสี่ยงในการซื้อขาย
    • การวางแผนการซื้อขาย: ค่า Equity สามารถช่วยให้คุณรู้ว่ากำไรหรือขาดทุนเกิดขึ้นในระยะเวลานาน ซึ่งช่วยในการวางแผนการซื้อขายในระยะยาว
    • การวิเคราะห์ผลประสิทธิภาพ: ค่า Equity เป็นข้อมูลสำคัญในการวิเคราะห์ผลประสิทธิภาพของกลยุทธ์การซื้อขาย และช่วยให้คุณปรับปรุงและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามผลการซื้อขายของคุณ

ข้อเสียของการใช้งาน Equity

    • ขาดความเป็นปัจจุบัน: ค่า Equity เป็นผลลัพธ์จากกำไรและขาดทุนในขณะนั้น ดังนั้น มันอาจไม่สามารถแสดงให้เราเห็นภาพที่แท้จริงของสถานการณ์ปัจจุบันได้
    • การเพิ่ม-ลดความเสี่ยง: หากค่า Equity ลดลงอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจและอาจจะมีแนวโน้มที่จะปรับปรุงการเพิ่มความเสี่ยงในการซื้อขายเพื่อกู้คืนขาดทุน
    • ขาดความเสถียร: ค่า Equity อาจเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งเนื่องจากความผันผวนในราคา ทำให้คุณต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและอาจทำให้คุณรู้สึกไม่แน่นอน
    • ไม่ได้บ่งชี้เหตุผล: ค่า Equity เป็นผลรวมของผลกำไรและขาดทุน แต่มันไม่บ่งชี้ให้เราเข้าใจสาเหตุของผลกระทบต่อการซื้อขาย

Equity ต่างกับ Balance หรือไม่

ในการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (Forex) ค่า “Equity” และ “Balance” คือสองคำศัพท์ที่ใช้ในบัญชีการซื้อขายเพื่ออธิบายสถานะและสมดุลของบัญชี แต่มีความแตกต่างดังนี้

    1. Equity (ส่วนของผู้ค้า): Equity คือค่าของเงินทั้งหมดในบัญชีของคุณรวมถึงกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายที่เปิดอยู่ในปัจจุบัน. มันเป็นผลรวมของ Balance (ยอดเงินในบัญชี) และกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายที่เปิดอยู่. Equity จะเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามผลกำไรและขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการซื้อขาย.
    2. Balance (ยอดเงินในบัญชี): Balance คือยอดเงินทั้งหมดในบัญชีของคุณที่ไม่รวมถึงกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายที่เปิดอยู่ในปัจจุบัน. มันเป็นเงินที่คุณฝากเข้าบัญชีและยังไม่มีการพิจารณาผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขาย.

ดังนั้น:

    • หากคุณมีสัญญาการซื้อขายที่กำลังเปิดอยู่ในบัญชีของคุณ ค่า Equity จะแตกต่างจาก Balance เนื่องจากมีการพิจารณาผลกำไรหรือขาดทุนจากสัญญาการซื้อขายเหล่านั้นด้วย.
    • หากคุณไม่มีสัญญาการซื้อขายที่กำลังเปิดอยู่ในบัญชีของคุณ ค่า Equity และ Balance จะเท่ากันเนื่องจากไม่มีการพิจารณาผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขาย.
    • Equity คือยอดเงินทั้งหมดในบัญชีที่รวมถึงทั้งกำไรและขาดทุนจากการซื้อขายทั้งหมดที่เปิดอยู่ในขณะนั้น ส่วน Balance คือยอดเงินในบัญชีที่ยังไม่รวมถึงผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายที่เปิดอยู่

ความแตกต่างระหว่างสองนี้ส่วนใหญ่จะปรากฏเมื่อคุณมีสัญญาการซื้อขายที่เปิดอยู่ในบัญชีของคุณ โดย Equity จะเปลี่ยนแปลงตามผลกำไรและขาดทุนจากสัญญาการซื้อขายทั้งหมดที่เปิดอยู่ ในขณะที่ Balance จะยังคงเดิมเนื่องจากมันไม่รวมผลกำไรหรือขาดทุนจากสัญญาการซื้อขาย การใช้ Equity และ Balance เป็นตัวชี้วัดในการวิเคราะห์บัญชีการซื้อขาย Forex ช่วยให้คุณเข้าใจสถานะการซื้อขายและผลกระทบจากการซื้อขายในเวลาจริงในบัญชีของคุณได้มากขึ้น