free margin คืออะไร
Free margin หมายถึง ส่วนที่เหลืออยู่ในบัญชีซื้อขายหลังจากหักส่วนที่ใช้เป็นมาร์จิ้น (margin) เพื่อเปิดหรือรักษาตำแหน่งซื้อขายในตลาดทางการเงิน เช่น ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา (Forex) หรือตลาดหุ้น โดยมาร์จิ้นคือเงินหรือทรัพย์สินที่ผู้เข้าร่วมซื้อขายต้องฝากเพื่อรักษาการเปิดตำแหน่ง ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น มาร์จิ้นเงินสด และมาร์จิ้นเปอร์เซ็นต์
หลังจากหักมาร์จิ้นแล้ว ส่วนที่เหลืออยู่ในบัญชีเรียกว่า “free margin” คือเงินหรือส่วนทรัพย์สินที่ยังไม่ถูกใช้งานไปเพื่อรักษาตำแหน่งที่เปิดอยู่ ผู้เข้าร่วมซื้อขายสามารถใช้ free margin ในการเปิดตำแหน่งใหม่หรือปรับปรุงตำแหน่งที่มีอยู่แล้วได้ หรือหากตำแหน่งที่ถืออยู่มีผลต่อบัญชีเป็นลบ (negative equity) ก็สามารถใช้ free margin ในการชดเชยขาดทุนได้ เพื่อป้องกันการทำให้บัญชีถึงจุดที่จะถูกปิดอัตโนมัติ (margin call).
ความสำคัญของ Free margin
ความสำคัญของ Free Margin ในการเทรดในตลาดทางการเงิน เช่น Forex, หุ้น หรือสินทรัพย์ทางการเงินอื่น ๆ สามารถสรุปได้ดังนี้:
การจัดการความเสี่ยง
Free Margin เป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้คุณเข้าใจว่าคุณมีพื้นที่ในการจัดการความเสี่ยงเพียงพอหรือไม่ เมื่อมีค่า Free Margin มากพอ คุณจะมีโอกาสที่จะเปิดออร์เดอร์เพิ่มเมื่อมีโอกาสทางการเงินที่ดี แต่เมื่อ Free Margin น้อยลงอาจเกิดความเสี่ยงที่สูงขึ้น เช่น การเกิด Margin Call ซึ่งอาจเกิดขึ้นเมื่อเงินในบัญชีไม่เพียงพอต่อการรักษาตำแหน่งที่เปิดอยู่
เปิดออร์เดอร์เพิ่ม
Free Margin ที่มีมูลค่าสูงสามารถใช้เปิดออร์เดอร์เพิ่มได้ ซึ่งอาจสร้างโอกาสในการทำกำไรเมื่อมีสัญญาณการเทรดที่เหมาะสม ค่า Free Margin ที่มีค่าน้อยลงอาจจำกัดโอกาสในการเปิดออร์เดอร์ใหม่ และอาจทำให้คุณพลาดขอบเขตโอกาสการเทรดที่มีได้
การรักษาตำแหน่งที่เปิดอยู่
เมื่อคุณมีตำแหน่งการเทรดที่เปิดอยู่ ค่า Free Margin จะเป็นตัวกำกับที่บอกว่าคุณยังมีทุนเพียงพอในบัญชีเพื่อรักษาตำแหน่งนั้น โดยในกรณีที่ Free Margin เหลือน้อยลง คุณอาจต้องปรับปรุงหรือปิดตำแหน่งที่เปิดอยู่เพื่อรักษาการใช้งานทรัพย์สินอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
การเป็นตัวชี้วัดในการบริหารจัดการ
Free Margin เป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้คุณเป็นไปได้ในการตรวจสอบว่ากำไรและขาดทุนจากการเทรด การใช้งานมาร์จิ้น และค่าน้ำหนักต่าง ๆ ทำให้คุณบริหารการเทรดอย่างมีระบบ และไม่ลงทุนมากเกินไป
การเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม
การวิเคราะห์ค่า Free Margin จะช่วยให้คุณเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับสภาพบัญชีและความเสี่ยงที่คุณพร้อมรับได้ เพื่อให้เสี่ยงน้อยลงและมีโอกาสทำกำไรสูงขึ้น
forex margin คำนวณอย่างไร
การคำนวณ Forex Margin นั้นเป็นกระบวนการที่ใช้สูตรเพื่อหาค่ามาร์จิ้นที่จำเป็นต้องใช้ในการเปิดหรือรักษาตำแหน่งการเทรดในตลาด Forex โดยมาร์จิ้นนั้นเป็นเงินหรือเงินทุนสำรองที่คุณต้องวางเพื่อเปิดหรือรักษาตำแหน่งเทรด เป็นการเพิ่มความสามารถในการลงทุนหรือซื้อขายในมูลค่าที่สูงกว่าเงินที่คุณมีอยู่จริง การคำนวณ Margin จะพิจารณาสัญญาณการค้า (เช่น คู่เงิน) และอัตราการเงินทุนที่บริษัทเปิดให้ในการเทรดเบื้องต้น (Initial Margin) หรือค่ามาตราฐานของแต่ละตลาดทางการเงิน โดยสูตรที่ใช้ในการคำนวณ Forex Margin โดยทั่วไปมักเป็นดังนี้:
Margin = จำนวนหน่วยสัญญา x ราคาปัจจุบัน x เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้น
เปอร์เซ็นต์มาร์จิ้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์และประเภทของบัญชีการเทรด เช่น ถ้ามาร์จิ้นอยู่ที่ 1% คุณจะต้องวางเงิน 1% ของมูลค่าสัญญาที่คุณต้องการซื้อขายเป็นมาร์จิ้น
ตัวอย่าง1
ถ้าคุณต้องการเทรดคู่เงิน EUR/USD ที่มูลค่าสัญญา 100,000 หน่วย และโบรกเกอร์กำหนดมาร์จิ้นที่ 1%, ราคาปัจจุบันของคู่เงินนี้อยู่ที่ 1.2000
Margin = 100,000 x 1.2000 x 0.01 = $1,200
ดังนั้นคุณจะต้องวางเงินมูลค่า 100,000 หน่วยสัญญา EUR/USD ที่ราคา 1.2000 เป็นมาร์จิ้นในจำนวน $1,200 เพื่อเปิดหรือรักษาตำแหน่งนี้ในตลาด Forex
ตัวอย่าง2
สมมุติว่าคุณต้องการเทรดคู่เงิน GBP/USD ที่มูลค่าสัญญา 10,000 หน่วย และโบรกเกอร์กำหนดมาร์จิ้นที่ 2%, ราคาปัจจุบันของคู่เงินนี้อยู่ที่ 1.3500
Margin = 10,000 x 1.3500 x 0.02 = $270
ในที่นี้คุณจะต้องวางเงินมูลค่า 10,000 หน่วยสัญญา GBP/USD ที่ราคา 1.3500 เป็นมาร์จิ้นในจำนวน $270 เพื่อเปิดหรือรักษาตำแหน่งในตลาด Forex โดยการใช้มาร์จิ้นที่ 2%
สูตรคำนวณ ระดับ margin level
Margin Level เป็นตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงร้อยละของมาร์จิ้นที่เหลืออยู่ในบัญชีเทียบกับมูลค่าของตำแหน่งการเทรดที่เปิดอยู่ ค่า Margin Level มีความสำคัญในการบ่งบอกถึงความปลอดภัยของบัญชีการเทรด และช่วยให้เกิดความเข้าใจว่าคุณมีเงินมาร์จิ้นเพียงพอหรือไม่เพื่อรักษาตำแหน่งเทรดที่เปิดอยู่ สูตรการคำนวณ Margin Level คือ:
Margin Level = (Equity / Used Margin) x 100
โดยที่:
- Equity คือ ยอดเงินในบัญชี (Balance + กำไร/ขาดทุนขณะนั้น)
- Used Margin คือ มูลค่ามาร์จิ้นที่ใช้สำหรับเทรดตอนนั้น
ตัวอย่าง1
ถ้าคุณมีบัญชีการเทรดที่มี Equity อยู่ที่ $5,000 และมูลค่า Used Margin เท่ากับ $1,000 คำนวณ Margin Level ได้ดังนี้:
Margin Level = ($5,000 / $1,000) x 100 = 500%
ค่า Margin Level ที่มากกว่า 100% หมายถึงว่าคุณมีเงินมาร์จิ้นมากพอที่จะรักษาตำแหน่งเทรดที่เปิดอยู่ ส่วนค่าที่น้อยกว่า 100% อาจเป็นสัญญาณที่คุณมีความเสี่ยงที่จะถูก Margin Call หรือถูกปิดอัตโนมัติเนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถรักษาตำแหน่งการเทรดได้ในกรณีของขาดทุนในตลาด
ตัวอย่าง2
สมมุติว่าคุณมีบัญชีการเทรดที่มี Equity อยู่ที่ $10,000 และมูลค่า Used Margin เท่ากับ $2,000 คำนวณ Margin Level ได้ดังนี้:
Margin Level = ($10,000 / $2,000) x 100 = 500%
ในกรณีนี้ค่า Margin Level คือ 500% ซึ่งหมายถึงคุณมีเงินมาร์จิ้นมากพอที่จะรักษาตำแหน่งการเทรดที่คุณเปิดอยู่ มูลค่า Equity ของคุณมีความสามารถในการควบคุมความเสี่ยงมากกว่ามูลค่า Used Margin หากค่า Margin Level น้อยลงกว่า 100% เช่น 70%, 50% หรือต่ำกว่านั้น จะแสดงว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะถูก Margin Call หรือปิดตำแหน่งการเทรดในกรณีของขาดทุนเพิ่มขึ้นในตลาด
ข้อเสียและข้อดีของ Free margin
การใช้งาน Free Margin มีข้อดีและข้อเสีย คุณควรพิจารณาความเหมาะสมและความเสี่ยงก่อนที่จะตัดสินใจในการเทรด และเป็นการใช้งานอย่างรอบคอบเพื่อรักษาความมั่นใจในการบริหารการเงิน การใช้งาน Free Margin มีข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ซึ่งคุณควรพิจารณาในการบริหารการเทรดในตลาดทางการเงิน
ข้อดีของ Free Margin
-
- ยืดหยุ่นในการเทรด: Free Margin ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเทรด เนื่องจากคุณสามารถใช้งานเงินทุนสำรองเพื่อเปิดตำแหน่งใหม่หรือปรับปรุงตำแหน่งที่มีอยู่ ขณะเดียวกันยังรักษาค่ามาร์จิ้นในระดับเหมาะสม
- โอกาสทางการเงิน: การมี Free Margin ที่มากพอช่วยเพิ่มโอกาสในการเปิดออร์เดอร์เพิ่มเมื่อมีโอกาสทางการเงินที่ดี ทำให้คุณสามารถนำเงินทุนสำรองไปลงทุนในการเทรดเพิ่มเติม
- การบริหารความเสี่ยง: ค่า Free Margin เป็นตัวกำกับที่ช่วยควบคุมความเสี่ยงในการเทรด และช่วยให้คุณรักษาการใช้งานมาร์จิ้นในระดับที่ปลอดภัย
- การทดสอบกลยุทธ์: คุณสามารถทดสอบกลยุทธ์การเทรดด้วยการใช้งาน Free Margin ในการเปิดออร์เดอร์ใหม่ หรือทำการเทรดเพิ่มเติมเพื่อดูผลกำไรและขาดทุนในสภาพต่าง ๆ ของตลาด
ข้อเสียของ Free Margin
-
- ความเสี่ยงในการขาดทุน: การใช้งาน Free Margin เพื่อเปิดออร์เดอร์ใหม่หรือเพิ่มจำนวนตำแหน่งการเทรด อาจส่งผลให้คุณสูญเสียเงินได้มากขึ้นในกรณีที่ตลาดเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด
- ความเสี่ยงจาก Margin Call: การใช้งาน Free Margin น้อยลงอาจทำให้เกิดความเสี่ยงจาก Margin Call ในกรณีที่เงินในบัญชีไม่เพียงพอในการรักษาตำแหน่งที่เปิดอยู่
- การบริหารความเสี่ยงที่ซับซ้อนขึ้น: การใช้งาน Free Margin อาจทำให้คุณต้องบริหารความเสี่ยงและกำกับตัวคุณเองอย่างเข้มงวดเพื่อรักษาการใช้งานมาร์จิ้นในระดับที่เหมาะสม
- ขาดทุนจากความผิดพลาด: การใช้งาน Free Margin อาจทำให้คุณทำการเทรดตามอารมณ์หรือทำการเทรดที่ไม่ได้มีการวางแผนอย่างเหมาะสม ทำให้เกิดความสูญเสียเงินได้
- ความซับซ้อนในการวางแผน: การบริหารค่า Free Margin ในการวางแผนการเทรดอาจทำให้กระบวนการวางแผนและการตัดสินใจเกิดความซับซ้อนขึ้น
- การเร่งการขาดทุน: การใช้งาน Free Margin เพื่อเพิ่มจำนวนการเทรดในการแก้ไขขาดทุนอาจทำให้คุณเสี่ยงในการขาดทุนมากขึ้น