Proof of Capacity (PoC) คืออะไร อธิบายข้อดีข้อเสีย

Proof of Capacity (PoC) คืออะไร
Proof of Capacity (PoC) คืออะไร

Proof of Capacity (PoC) คืออะไร

Proof of Capacity (PoC) หรือ การพิสูจน์ความจุที่ใช้พื้นที่เก็บข้อมูล คือกลไกการทำงานในบล็อกเชน (blockchain) ที่ใช้การเก็บข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์เป็นหลักเพื่อการพิสูจน์ความสมบูรณ์ของผู้เหมาะสมในการสร้างบล็อกใหม่ในระบบ blockchain หรือ cryptocurrency บางประเภท โดย PoC มีความแตกต่างจาก Proof of Work (PoW) และ Proof of Stake (PoS) ซึ่งเป็นกลไกการทำงานในบล็อกเชนอื่น ๆ ที่มีการตรวจสอบความถูกต้องของการทำงานโดยอยู่ในขั้นตอนการหาบล็อกใหม่และการตรวจสอบการทำงานก่อนที่จะถูกยอมรับในระบบ blockchain.

กลไกการทำงาน PoC ผู้ใช้จะต้องใช้พื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกเขาเพื่อสร้าง “พล็อต” (plots) ที่เก็บข้อมูลสุ่ม (randomly generated data) และการสร้างพล็อตนี้จะใช้เวลาและพล็อตหลาย ๆ อันก็จะใช้พื้นที่ในฮาร์ดดิสก์ หลังจากนั้น พล็อตที่ถูกสร้างขึ้นนี้จะถูกใช้ในกระบวนการการพิสูจน์ความสมบูรณ์ของการสร้างบล็อกใหม่ ผู้ที่มีพล็อตที่มากที่สุดและสามารถแสดงถึงความพร้อมในการใช้พล็อตนั้นในการสร้างบล็อกถัดไปจะได้รับรางวัลในระบบ cryptocurrency ที่ใช้อยู่.

Proof of Capacity (PoC) มีอะไรบ้าง

Proof of Capacity (PoC) เป็นกลไกการทำงานในระบบบล็อกเชน (blockchain) ซึ่งมีลักษณะแตกต่างจาก Proof of Work (PoW) และ Proof of Stake (PoS) โดย PoC ใช้การพิสูจน์ความสมบูรณ์ผ่านการใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนี้

  1. การสร้างพล็อต (Plots):
    • ในขั้นตอนแรกของ PoC, ผู้ใช้จะต้องสร้างพล็อต (plots) ซึ่งเป็นชุดข้อมูลบนฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ของพวกเขา พล็อตจะประกอบด้วยข้อมูลสุ่มที่ถูกสร้างขึ้นจากกระบวนการคำนวณซับเรกจากเลขเร็วเร็ว (random number generator) และจะถูกเขียนลงในหน่วยฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ การสร้างพล็อตนี้ต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการเขียนข้อมูลลงในฮาร์ดดิสก์ และพล็อตนี้จะถูกใช้ในการพิสูจน์ความสมบูรณ์ของการทำงานใน PoC.
  2. การทำงานในระบบ PoC:
    • เมื่อพล็อตถูกสร้างแล้ว, ผู้ใช้จะนำพล็อตนี้มาใช้ในกระบวนการการพิสูจน์ความสมบูรณ์ (proof of completeness) ซึ่งเป็นกระบวนการการคำนวณที่ผู้ใช้จะต้องทำเพื่อพิสูจน์ว่าพล็อตของพวกเขามีความสมบูรณ์และพร้อมใช้ในการสร้างบล็อกถัดไปในระบบ blockchain.
    • การพิสูจน์ความสมบูรณ์ใน PoC อาจเป็นกระบวนการทางคณิตศาสตร์หรือการคำนวณที่ใช้พล็อตเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลบล็อก.
  3. การปลดล็อครางวัล:
    • การปลดล็อครางวัลใน PoC จะขึ้นอยู่กับกระบวนการการพิสูจน์ความสมบูรณ์และการสุ่มตัวเลขที่เป็นตัวแทนของบล็อกถัดไปในระบบ blockchain.
    • ผู้ที่สามารถพิสูจน์ว่าพล็อตของพวกเขามีความสมบูรณ์และพร้อมใช้ในการสร้างบล็อกถัดไป และสามารถสุ่มตัวเลขที่ถูกต้องจะได้รับสิทธิ์ในการสร้างบล็อกและรับรางวัลในรูปแบบ cryptocurrency ที่ใช้อยู่ในระบบ blockchain.
  4. การป้องกันการโจมตี 51%:
    • PoC มีระบบการป้องกันการโจมตี 51% เหมือนกับ PoW โดยหมายความว่าผู้ที่ต้องการโจมตีระบบจะต้องครอบครองพล็อตมากกว่าครึ่งของพล็อตทั้งหมดในเครือข่ายเพื่อที่จะมีโอกาสสร้างบล็อกถัดไป การทำเช่นนี้มีความยากเย็นและมีค่าใช้จ่ายที่สูงในการทำเช่นนี้.
    • การป้องกันการโจมตี 51% มุ่งเน้นการรักษาความความสมบูรณ์ของเครือข่ายและป้องกันการควบคุมโดยผู้ครอบครองมากกว่าครึ่งของการทำงานในระบบ blockchain.

PoC มีข้อได้เปรียบด้วยความประหยัดพลังงานและความปลอดภัยสูง เนื่องจากมันไม่ใช้การคำนวณแบบ PoW และไม่ต้องมีการลงทุนในการเหมืองแบบ PoW หรือการมีค่ามัดจำในการแบบ PoS ที่จะเข้าร่วมในเครือข่าย blockchain โดย PoC ยังสามารถเปิดโอกาสให้ผู้ทั่วไปที่มีพื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ของพวกเขาในการเข้าร่วมในเครือข่าย blockchain ได้อีกด้วย

ข้อดีข้อเสียของ Proof of Capacity (PoC)

PoC เป็นรูปแบบการทำงานในระบบ blockchain ที่มีข้อดีเช่นความประหยัดพลังงานและความเสถียร แต่ก็มีข้อจำกัดและความซับซ้อนในการเริ่มต้นและการเลือกใช้พล็อตที่ถูกต้องในการใช้งาน.ข้อดีและข้อเสียของ Proof of Capacity (PoC) มีรายละเอียดดังนี้:

ข้อดีของ Proof of Capacity

  1. ความประหยัดพลังงาน: PoC มีความประหยัดพลังงานมากกว่า PoW เนื่องจากไม่ต้องใช้การคำนวณซับซ้อนแบบ PoW ที่ใช้มากขึ้นในการหาบล็อกใหม่ การใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ในการพิสูจน์ความสมบูรณ์ไม่ทำให้เกิดการเสียพลังงานในการคำนวณตลอดเวลาเหมือน PoW.
  2. การใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์: PoC ใช้การเก็บข้อมูลในพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ เป็นหลัก ผู้ใช้ที่มีพื้นที่ว่างในฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์สามารถเข้าร่วมในระบบ blockchain ได้โดยไม่ต้องลงทุนในฮาร์ดแวร์พิเศษ นี่เป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่มีทรัพยากรมาก.
  3. ความคุ้มค่า: การสร้างพล็อตใน PoC ไม่ต้องการการลงทุนในฮาร์ดแวร์มากเท่ากับ PoW หรือการมีค่ามัดจำใน PoS ทำให้มีความเป็นไปได้สำหรับผู้ใช้ที่มีทรัพยากรจำกัดในการเข้าร่วมในระบบ blockchain.
  4. การป้องกันการโจมตี 51%: PoC มีระบบการป้องกันการโจมตี 51% เหมือนกับ PoW ซึ่งทำให้มีความยากเย็นในการโจมตีเครือข่าย ผู้โจมตีจะต้องครอบครองมากกว่าครึ่งของพล็อตทั้งหมดในเครือข่ายเพื่อที่จะมีโอกาสสร้างบล็อกถัดไป.
  5. ความเสถียร: PoC มีความเสถียรมาก เนื่องจากมีความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลและไม่มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเครือข่ายอย่างรวดเร็ว นี่สร้างความเชื่อถือในระบบ.

ข้อเสียของ Proof of Capacity

  1. การเริ่มต้นที่ยากเย็น: การสร้างพล็อตและการตั้งค่า PoC อาจจะซับซ้อนและต้องใช้เวลานานในขั้นตอนแรก เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าร่วมในการสร้างบล็อกใหม่ในระบบ blockchain.
  2. การล้าช้าในการถอนเงิน: ในบางกรณี PoC อาจมีข้อจำกัดในการถอนเงินหรือการทำธุรกรรมที่เร็วกว่า PoW หรือ PoS นี่อาจทำให้ผู้ใช้ต้องรอเวลานานกว่าที่คาดไว้ในการดำเนินการ.
  3. ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี: PoC อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีในอนาคตที่อาจทำให้การใช้พล็อตที่ถูกสร้างไว้ต้องปรับปรุงหรือถูกทิ้งใช้งาน เมื่อเทคโนโลยี PoC ต่างจาก PoW และ PoS ที่มีโครงสร้างที่เสถียรมากขึ้น.
  4. ข้อจำกัดในการเลือกใช้พล็อต: ผู้ใช้จะต้องเลือกใช้พล็อตที่ถูกต้องและพร้อมใช้ในการการพิสูจน์ความสมบูรณ์ หากไม่มีการสร้างพล็อตที่เหมาะสม อาจจะไม่สามารถเข้าร่วมในการสร้างบล็อกได้ นี่อาจเป็นข้อยุ่งยากสำหรับผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี PoC.

ตัวอย่าง Proof of Capacity (PoC) ในปัจจุบัน

การใช้งานพล็อตใน Proof of Capacity (PoC) ในปัจจุบันยังคงเป็นวิธีที่น้อยคนนิยมใช้งานในระบบ blockchain เมื่อเทียบกับ Proof of Work (PoW) หรือ Proof of Stake (PoS) แต่ก็มีโครงการและ cryptocurrency บางรายที่ใช้งาน PoC อยู่ ตัวอย่างบางส่วนของการใช้งาน PoC ในปัจจุบันได้แก่:

  1. Burstcoin (BURST): Burstcoin เป็น cryptocurrency ที่ใช้ PoC เป็นกลไกการพิสูจน์ความสมบูรณ์ ในการใช้งาน Burstcoin ผู้ใช้จะต้องสร้างพล็อตและนำมาใช้ในกระบวนการพิสูจน์ความสมบูรณ์ในการสร้างบล็อกใหม่ รางวัลใน Burstcoin จะถูกแจกจ่ายให้กับผู้ที่สร้างบล็อกถัดไปโดยใช้พล็อตของพวกเขา.
  2. Chia (XCH): Chia เป็น cryptocurrency ใหม่ที่ใช้ PoC เป็นระบบการพิสูจน์ความสมบูรณ์ โดยใช้หลักการการเก็บข้อมูลและการจัดเก็บพล็อตในฮาร์ดดิสก์เป็นหลัก ผู้ใช้จะสร้างพล็อตและเข้าร่วมในการสร้างบล็อกใหม่เพื่อรับรางวัลใน Chia.
  3. Sia (SC): Sia เป็นแพลตฟอร์มการเก็บข้อมูลแบบกระจาย (decentralized storage platform) ที่ใช้ PoC เพื่อให้ผู้ใช้เก็บข้อมูลในเครือข่ายโดยใช้ SiaCoin (SC) เป็นเครื่องมือในการชำระเงิน. ในการใช้งาน Sia, ผู้ใช้จะต้องสร้างพล็อตเพื่อใช้เป็นการรักษาข้อมูลและชำระค่าบริการ.
  4. Pool2Miners: Pool2Miners เป็นบริการเว็บที่สนับสนุน PoC โดยสนับสนุนการขุด Burstcoin และการใช้งาน PoC อื่น ๆ ในรูปแบบของ pool mining เป็นที่รู้จักในชุมชนของผู้ใช้ PoC.