Alligator indicator คืออะไร การใช้งาน การตั้งค่า ข้อดีข้อเสีย และการใช้คู่กับ indicator อื่น

Alligator indicator คืออะไร

ตัวชี้วัด Alligator Indicator คืออีกหนึ่งเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์กราฟราคาในตลาดทางการเงิน โดยเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือในการวิเคราะห์แนวโน้มแบบเทรนด์ตาม Bill Williams ซึ่งเป็นนักธุรกิจและนักพัฒนาอินดิเคเตอร์ในตลาดทางการเงิน.

Alligator Indicator ประกอบด้วย 3 เส้นคือ

  1. สายสีเขียว (Green Line) – เรียกว่า “สายปาก (Jaw)” แทนความเบื่อหน่ายของตลาด มีระยะเวลาในการเคลื่อนที่ช้าที่สุด (ถัดจากระยะเวลาสายสีแดงและสีน้ำเงิน)
  2. สายสีแดง (Red Line) – เรียกว่า “สายฟัน (Teeth)” แทนความกระสับกระส่ายของตลาด มีระยะเวลาในการเคลื่อนที่ค่อนข้างเร็ว (ระหว่างสายสีเขียวและสีน้ำเงิน)
  3. สายสีน้ำเงิน (Blue Line) – เรียกว่า “สายริมฝีปาก (Lips)” แทนความกระตือรือร้นของตลาด มีระยะเวลาในการเคลื่อนที่ระหว่างสายสีแดงและสีเขียว

เมื่อเส้นทั้ง 3 สายแนวตั้งและเรียงตามลำดับ และเส้นสีเขียวอยู่ด้านบนสุด สายแดงอยู่ในกลาง และสายน้ำเงินอยู่ด้านล่างสุด หมายถึงสถานะของตลาดในช่วงเวลานั้นคือ “เลือนไปทางขึ้น” หรือ “Up Trend” ซึ่งส่องแสดงถึงโอกาสในการลงทุนที่ดีในทิศทางของการเพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ในระยะยาว เมื่อเส้นสีเขียวอยู่ด้านล่างสุด สายแดงอยู่ในกลาง และสายน้ำเงินอยู่ด้านบนสุด หมายถึงสถานะของตลาดในช่วงเวลานั้นคือ “เลือนไปทางลง” หรือ “Down Trend” ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อหรือขายทรัพย์สินในตลาดทางการเงินได้ในระยะยาว แต่ควรระมัดระวังและใช้เครื่องมือทางเทคนิคเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนในการตัดสินใจเช่นกัน

การใช้งาน Alligator indicator

การใช้งาน Alligator Indicator เป็นอีกหนึ่งวิธีในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและการตัดสินใจในการซื้อหรือขายในตลาดทางการเงิน ดังนี้คือขั้นตอนการใช้งาน:

ตรวจสอบตำแหน่งของเส้นสีเขียว (Jaw)

เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าเส้นสีเขียวอยู่ด้านบนสุดหรือด้านล่างสุดของเส้นสายอื่น ๆ (สายสีแดงและสายสีน้ำเงิน) หากเส้นสีเขียวอยู่ด้านบนสุดและสายสีแดงอยู่ในกลาง และสายสีน้ำเงินอยู่ด้านล่างสุด หมายถึงสถานะของตลาดเป็น “เลือนไปทางขึ้น” หรือ “Up Trend”.

รอให้เส้นสีเขียว (Jaw) และสายสีแดง (Teeth) ห่างกัน

เมื่อเส้นสีเขียวเริ่มเคลื่อนที่ขึ้นไป และสายสีแดงเริ่มเคลื่อนที่ขึ้นไปด้วย ให้รอให้เส้นสีเขียวและสายสีแดงห่างกัน เพื่อแสดงถึงการตกลงของกระแสเงินทุนในตลาด.

รอให้เส้นสีน้ำเงิน (Lips) ตัดข้างขึ้น

เมื่อเส้นสีเขียวและสายสีแดงห่างกันและเริ่มเคลื่อนที่ขึ้น และเส้นสีน้ำเงินตัดข้างขึ้นมาบน เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดอาจกำลังเข้าสู่ขั้นตอนของการเคลื่อนที่ขึ้นไป (Up Trend).

ตรวจสอบสัญญาณการซื้อหรือขาย

เมื่อเส้นสายสีเขียว (Jaw) อยู่ด้านบนสุด และสายสีแดง (Teeth) อยู่ในกลาง และสายสีน้ำเงิน (Lips) ตัดข้างขึ้นมาบน นักลงทุนอาจพิจารณาที่จะซื้อเข้าสู่ตลาดเพื่อรับประกันว่าอยู่ในทิศทางของเทรนด์เพิ่มมูลค่า.

สำหรับการตลาดที่เป็น “เลือนไปทางลง” หรือ “Down Trend” ก็จะกลับกันทั้งหมดข้างต้น เมื่อเส้นสีเขียว (Jaw) อยู่ด้านล่างสุด และสายสีแดง (Teeth) อยู่ในกลาง และสายสีน้ำเงิน (Lips) ตัดข้างลงมาล่าง เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดอาจกำลังเข้าสู่ขั้นตอนของการเคลื่อนที่ลงมา (Down Trend).

การตั้งค่า Alligator indicator

การตั้งค่า Alligator Indicator เป็นการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาของเส้นสายสีเขียว (Jaw), สายสีแดง (Teeth), และสายสีน้ำเงิน (Lips) ซึ่งจะช่วยกำหนดลักษณะและความเร็วในการตามแนวโน้มของตลาดได้ โดยส่วนใหญ่จะใช้ค่าเริ่มต้นที่ Bill Williams แนะนำอยู่แล้ว คือ 13, 8, 5 ตามลำดับ ซึ่งค่าเหล่านี้จะแสดงระยะเวลาในการเคลื่อนที่ของแต่ละเส้น.

ต่อไปนี้คือขั้นตอนในการตั้งค่า Alligator Indicator:

  1. เปิดกราฟ: เปิดกราฟของตลาดหรือสินทรัพย์ที่คุณต้องการทำการวิเคราะห์.
  2. เพิ่ม Indicator: เลือกเมนู “Insert” หรือ “Indicators” บนแพลตฟอร์มการซื้อขายของคุณ แล้วเลือก “Trend” หรือ “Bill Williams” แล้วเลือก “Alligator” เพื่อเพิ่ม Alligator Indicator ลงในกราฟ.
  3. กำหนดค่าเริ่มต้น: เมื่อเพิ่ม Indicator ลงในกราฟแล้ว กำหนดค่าระยะเวลาของเส้นสายสีเขียว (Jaw), สายสีแดง (Teeth), และสายสีน้ำเงิน (Lips) ตามต้องการ. ค่าเริ่มต้นที่แนะนำคือ 13, 8, 5.
  4. การปรับแต่งอื่น ๆ: คุณยังสามารถปรับแต่งสีของเส้นและค่าอื่น ๆ ใน Alligator Indicator ตามความต้องการของคุณ เพื่อให้มีการแสดงผลที่ใช้งานได้ง่าย.
  5. วิเคราะห์แนวโน้ม: เมื่อตั้งค่าเสร็จสมบูรณ์ ใช้ Alligator Indicator เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาด โดยสำรวจตำแหน่งและความสัมพันธ์ของเส้นสีเขียว (Jaw), สายสีแดง (Teeth), และสายสีน้ำเงิน (Lips).
  6. การตัดสินใจเทรด: ใช้ข้อมูลจาก Alligator Indicator ร่วมกับเครื่องมือและวิเคราะห์อื่น ๆ เพื่อตัดสินใจว่าควรซื้อหรือขายในตลาดทางการเงินตามแนวโน้มที่แสดงอยู่.

ข้อดีข้อเสีย Alligator indicator

Alligator Indicator เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่มีข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ดังนี้:

ข้อดีของ Alligator Indicator

    1. ช่วยแสดงแนวโน้ม: Alligator Indicator ช่วยในการแสดงแนวโน้มของตลาดในระยะยาว ช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงทิศทางที่ตลาดอาจจะเคลื่อนที่ไป.
    2. ลดความสับสน: โดยปกติแล้วเส้นสีเขียว (Jaw), สายสีแดง (Teeth), และสายสีน้ำเงิน (Lips) ถูกออกแบบให้เป็นรายละเอียดที่สอดคล้องกัน เมื่อสามารถอ่านและเข้าใจได้ง่าย จึงช่วยลดความสับสนในการวิเคราะห์แนวโน้ม.
    3. ความสัมพันธ์ระหว่างเส้น: การวิเคราะห์ตำแหน่งและความสัมพันธ์ระหว่างเส้นสายสีเขียว (Jaw), สายสีแดง (Teeth), และสายสีน้ำเงิน (Lips) สามารถช่วยในการตัดสินใจเรื่องการซื้อหรือขายในตลาดได้อย่างมีเหตุผล.

ข้อเสียของ Alligator Indicator

    1. ค่าล่าช้า: เนื่องจาก Alligator Indicator ใช้เส้นสายที่มีระยะเวลาค่อนข้างยาว (13, 8, 5) แสดงแนวโน้ม มันอาจทำให้มีค่าล่าช้าในการแสดงผลแนวโน้มใหม่ เมื่อตลาดเปลี่ยนแปลงไป.
    2. อาจไม่เหมาะกับทุกสถานการณ์: อาจมีบางสถานการณ์ที่ Alligator Indicator ไม่สามารถแสดงผลแนวโน้มที่ถูกต้องได้ เช่น เวลาที่ตลาดอยู่ในสถานการณ์ข้างขึ้นแล้วมีการวิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว.
    3. การส่งสัญญาณละเอียดน้อย: Alligator Indicator มีการแสดงสัญญาณเป็นรายละเอียดเบื้องต้นเท่านั้น แต่หากต้องการสัญญาณที่ละเอียดมากขึ้นอาจต้องใช้เครื่องมือและข้อมูลเพิ่มเติม.
    4. ไม่ครอบคลุมทุกกรณี: เหมือนกับเครื่องมือวิเคราะห์อื่น ๆ Alligator Indicator ก็ไม่สามารถครอบคลุมทุกกรณีของการเคลื่อนไหวของตลาดได้ การใช้ Indicator อย่างเดียวไม่ควรทำให้ละเลยการวิเคราะห์อื่น ๆ เช่น การวิเคราะห์เทคนิคอื่น ๆ และการวิเคราะห์พื้นฐาน.

การใช้ Alligator indicator คู่กับ indicator อื่น

การใช้ Alligator Indicator ร่วมกับ Indicator อื่น ๆ เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจการซื้อหรือขายในตลาดทางการเงิน ดังนี้คือตัวอย่างของ Indicator ที่สามารถใช้ร่วมกับ Alligator Indicator:

  1. Moving Averages (เคาะเส้นเคลื่อนย่าน): การใช้ Moving Averages เป็นการวิเคราะห์แนวโน้มเช่นกัน คุณสามารถใช้เส้นเคลื่อนย่านต่าง ๆ เพื่อดูเทรนด์ที่แตกต่างกัน และเชื่อมกับ Alligator Indicator เพื่อความมั่นใจในการตัดสินใจ.
  2. Relative Strength Index (RSI): RSI เป็น Indicator ที่ช่วยวัดความแรงและความอ่อนแอของตลาด คุณสามารถใช้ RSI เพื่อช่วยตรวจสอบว่าตลาดอาจอยู่ในสภาวะกำลังขายหรือซื้อเกินไปหรือไม่ และร่วมกับ Alligator Indicator เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องกันของสัญญาณ.
  3. MACD (Moving Average Convergence Divergence): MACD เป็น Indicator ที่ช่วยในการวิเคราะห์เทรนด์และสัญญาณซื้อขาย คุณสามารถรวมการวิเคราะห์จาก MACD ร่วมกับ Alligator Indicator เพื่อเพิ่มข้อมูลในการตัดสินใจ.
  4. Bollinger Bands (แถบบอลลิงเจอร์): แถบบอลลิงเจอร์เป็น Indicator ที่ช่วยในการวัดความแปรปรวนของราคา คุณสามารถใช้การข้ามเส้นแถบบอลลิงเจอร์ร่วมกับ Alligator Indicator เพื่อหาสัญญาณเมื่อตลาดมีการแปรปรวน.
  5. Fibonacci Retracements (ระดับ Fibonacci): การใช้ระดับ Fibonacci เป็นวิธีหนึ่งในการจับจุดที่เคลื่อนไหวของราคาในช่วงเทรนด์ คุณสามารถร่วมการวิเคราะห์ระดับ Fibonacci กับ Alligator Indicator เพื่อค้นหาระดับสนับสนุนและความต้านทาน.
  6. Volume Indicators (Indicator เทียบปริมาณซื้อขาย): การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขายในตลาดเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถใช้ Indicator เทียบปริมาณซื้อขายเช่น Volume Profile ร่วมกับ Alligator Indicator เพื่อดูถึงการเข้าออกของเทรนด์ในปริมาณ.