รีวิวโบรกเกอร์ Pepperstone ดีไหม วิธีสมัครเปิดบัญชีฝากถอนเงิน เงื่อนไข

Pepperstone ดีไหม

Pepperstone ดีไหม?

ข้อดี Pepperstone:

    1. มีความน่าเชื่อถือสูง
    2. มีสินทรัพย์ให้เทรดเยอะ
    3. ค่า Spread Forex, ทองคำ, Bitcoin ต่ำ
    4. ค่า Swap Forex ต่ำ
    5. ไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากถอนเงิน
    6. มีแพลตฟอร์มการเทรดให้เลือกเยอะ
    7. มีโบนัสและโปรโมชัน
    8. ฝากเงินเข้าทันที
    9. ฝากถอนเงินขั้นต่ำน้อย
    10. มีช่องทางฝากถอนเงินเยอะ
    11. รองรับการฝากและถอนเงินทุกธนาคารในประเทศไทย
    12. มีเว็บภาษาไทยและมีทีมงานคนไทย
    13. ใช้งานสะดวกทั้งในมือถือและคอมพิวเตอร์
    14. มีเบอร์โทรในประเทศไทยและไลน์ให้ติดต่อ

ข้อเสีย Pepperstone:

    1. ค่า Swap Bitcoin สูง
    2. มีประเภทบัญชีเทรดให้เลือกน้อย
    3. เรทฝากถอนสูง
    4. การเทรดหุ้นมีค่าคอมมิชชัน

สรุปภาพรวม – Pepperstone

  • เงินฝากขั้นต่ำ: $200 (฿6,000)
  • เลเวอเรจสูงสุด: 1:500
  • เทรดดิ้งแพลตฟอร์ม: MT4, MT5, cTrader
  • หน่วยงานกำกับดูแล: ASIC, AMF, FCA
  • การฝากและการถอนเงิน: Visa, Mastercard, PayPal และ Neteller

ข้อดี:

      • ค่าสเปรดในการเทรดต่ำ
      • มีฝ่ายดูแลลูกค้าที่ยอดเยี่ยม

ข้อเสีย:

      • เทรดได้แค่ฟอเร็กซ์และ CFD บางตัวเท่านั้น
      • เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการไม่ใช้งานบัญชี
      • แหล่งความรู้มีแค่ในรูปแบบบทความ

ข้อสังเกต:

    1. ค่า Swap ทองคำ อยู่ในระดับค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ
    2. Leverage สูงสุด 1:500 ถือว่าอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ
    3. ระยะเวลารอถอนเงิน อยู่ในระดับค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกับโบรกเกอร์อื่นๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม:

    • Pepperstone เหมาะสมกับการเทรด EA ด้วย platform ที่มีความเยี่ยมยอด
    • มี Live chat ให้บริการโดยเจ้าหน้าที่คนไทย
    • มีสำนักงานที่ประเทศไทย (เซ็นทรัลเวิร์ด ชั้น 29)

 

 

peperstone ออฟฟิศ

ข้อมูลเกี่ยวกับ Pepperstone

1. Pepperstone คืออะไร

    • Pepperstone คือโบรกเกอร์ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 ที่ประเทศออสเตรเลีย เพื่อให้บริการเทรดฟอเร็กซ์และ CFDs ทั่วโลก.

2. รายละเอียดทั่วไป

    • โบรกเกอร์มีที่ตั้งหลักที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย และมีสำนักงานในหลายประเทศ.
    • ได้รับการกำกับดูแลจาก Australian Seucurities and Investments Commission (ASIC) และ Financial Conduct Authority (FCA) ของประเทศอังกฤษ.
    • บริการของ Pepperstone ครอบคลุมถึงกว่า 150 ประเทศ ด้วยเทรดเดอร์กว่า 300,000 ราย.

3. บริการและแพลตฟอร์ม

    • ให้บริการเทรดฟอเร็กซ์และ CFDs ผ่านแพลตฟอร์มเทรดดิ้งยอดนิยม MT4, MT5 และ cTrader.
    • มีแอพพลิเคชั่นบนมือถือสำหรับการเทรดดิ้งเพื่อความสะดวกสบาย.
    • รับรองด้วยรางวัลและเกียรติบัตรต่างๆ ที่ได้รับรางวัลมาแล้ว.

4. ค่าธรรมเนียมและสเปรด

    • มีค่าสเปรดต่ำสำหรับบัญชี Razor.
    • แต่มีค่าธรรมเนียมบางอย่างที่เกี่ยวกับบัญชีและไม่เกี่ยวข้องกับการเทรด.

5. ฝ่ายบริการลูกค้า

    • มีทีมงานที่ให้บริการดูแลลูกค้าด้วยความเป็นมืออาชีพและมีประสบการณ์.

6. คำแนะนำ

    • ถึงแม้ว่า Pepperstone จะมีบริการดี แต่ยังมีค่าธรรมเนียมบางประการ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาโบรกเกอร์ใหม่ อาจต้องการพิจารณา Exness ซึ่งมีแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่าย, ค่าธรรมเนียมต่ำ, และมีความรวดเร็วในการซื้อขาย.

forex regulator

ความน่าเชื่อถือของ Pepperstone

Pepperstone เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงในวงการการเงินและการเทรด, โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศออสเตรเลียและทั่วโลก:

  1. ประวัติและชื่อเสียง: ความสามารถในการบริการ  ประสบการณ์ในการให้บริการ, และความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้ Pepperstone มีชื่อเสียงในวงการเป็นอย่างดี.
  2. การได้รับใบอนุญาต: โบรกเกอร์นี้ได้รับการรับรองจากหลายองค์กรการควบคุมด้านการเงิน, เช่น ASIC และ FCA, ซึ่งเป็นองค์กรการควบคุมที่ได้รับความยอมรับระดับโลก.
  3. การรับรางวัล: Pepperstone ได้รับการยอมรับและรับรางวัลมากมายในหลายๆ ปี เป็นสิ่งยืนยันว่าบริษัทมีการบริหารจัดการที่ดีและมีประสิทธิภาพ.

ใบอนุญาตของ Pepperstone:

Pepperstone ได้รับใบอนุญาตให้ดำเนินการจากหลายองค์กรการควบคุม, รวมถึง:

  • ASIC (Australian Securities and Investments Commission): โบรกเกอร์ได้รับใบอนุญาตเลขที่ 414530
  • FCA (Financial Conduct Authority): ใบอนุญาตเลขที่ Registration Number 684312
  • SCB: Pepperstone Markets Limited ใบอนุญาตเลขที่ SIA-F217
  • CMA: Pepperstone Markets Kenya Limited ใบอนุญาตเลขที่ 128
  • CySEC: Pepperstone EU Limited ใบอนุญาตเลขที่ 388/20
  • BaFin: Pepperstone GmbH ใบอนุญาตเลขที่151148
  • DFSA: Pepperstone Financial Services (DIFC) Limited ใบอนุญาตเลขที่F004356

การได้รับใบอนุญาตจากหลายองค์กรเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า Pepperstone ได้ทำการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นตามกฎระเบียบของการเงินทั่วโลก

ประเภทบัญชี pepperstone

ประเภทบัญชีของ Pepperstone

Pepperstone เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่เทรดเดอร์ทั้งในไทยและต่างประเทศ หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ Pepperstone ได้รับความนิยมคือ การมีประเภทบัญชีที่หลากหลาย ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดของประเภทบัญชีที่ Pepperstone นำเสนอ:

  1. บัญชี Standard:

    • ไม่มีค่าคอมมิชชั่น
    • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์เริ่มต้นและเทรดเดอร์ที่เป็นลูกค้าใหม่
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 0-1.8 pip (เฉลี่ย 0.6 pip)
  2. บัญชี Razor:

    • มีค่าคอมมิชชั่น
    • เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่เทรดบ่อยและมีรูปแบบการเทรดที่มีการเฮจ
    • สเปรดเริ่มต้นที่ 0-0.3 pip
    • ค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ย 7-8 $/Lot/รอบ

การเลือกใช้บัญชีระหว่าง Standard และ Razor นั้นขึ้นอยู่กับลักษณะการเทรดและประเภทของเทรดเดอร์ ถ้าคิดง่ายๆ บัญชี Standard อาจจะดีสำหรับผู้เทรดเดอร์ที่ไม่ต้องการความซับซ้อนในการคิดค่าบริการ ในขณะที่ Razor อาจจะเหมาะกับผู้ที่มีปริมาณการเทรดมากขึ้นและต้องการค่าบริการที่แข่งขันได้ โดยรวมแล้วการเทรดด้วยบัญชี Razor จะคุ้มค่ากว่าในระยะยาว เนื่องจากค่าบริการรวมจะถูกกว่า

นอกจากนั้นยังควรคำนึงถึงค่า SWAP ที่ต้องเสียเมื่อถือสภาพเป็น overnight position. Pepperstone มีค่า SWAP ในระดับกลาง ที่ไม่ถือว่าแพงหรือถูกมากนัก และสำหรับค่าสเปรด, เพื่อความคุ้มค่าในการเทรด ควรเปิดออร์เดอร์ในช่วงเวลาที่ตลาดของคู่เงินนั้นๆ เปิดทำการ.

การฝากเงินและถอนเงิน

ในการฝากและถอนเงินผ่าน Pepperstone, ความสะดวกสบายและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่คุณควรคำนึงถึง:

  1. PayPal: ต้องถอนส่วนต่างออกมาจนครบจำนวนที่คุณฝากมาก่อน จากนั้นคุณจึงจะสามารถถอนไปยังช่องทางอื่นได้ หากคุณฝากเงินผ่าน PayPal, คุณจะต้องถอนเงินผ่าน PayPal ก่อนอื่น. ข้อดีของ PayPal คือความเร็วในการดำเนินการ.
  2. Neteller และ Skrill: การฝากเงินผ่านทั้งสองช่องทางนี้จะเข้าทันทีและไม่มีค่าธรรมเนียม. แต่การถอนอาจมีค่าธรรมเนียม.
  3. Bankwire: การฝากและถอนเงินผ่านธนาคารอาจใช้เวลา 1-3 วัน ข้อดีคือคุณสามารถฝากหรือถอนเงินเป็นจำนวนมากได้.
  4. Local Bank transfer: สำหรับผู้ใช้งานในไทย, การฝากถอนผ่านธนาคารท้องถิ่นเป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกสบาย. ค่าธรรมเนียมการฝากและถอนยังต่ำ.
  5. เครดิตการ์ด: สำหรับคนที่ต้องการฝากเงินอย่างรวดเร็ว, การใช้เครดิตการ์ดเป็นวิธีที่ดี.
  6. การถอนเงิน: การถอนเงินอาจมีข้อจำกัดบางประการเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีฝากเงิน. ดังนั้น, คุณควรตรวจสอบและทำความเข้าใจในข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องก่อนทำการถอนเงิน.

เราขอแนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดจากเว็บไซต์หรือติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของ Pepperstone ก่อนทำการฝากหรือถอนเงินเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน.

 

ขั้นตอนการฝากเงินถอนเงิน pepperstone

ขั้นตอนการฝากเงินและถอนเงินกับ Pepperstone ตามที่เป็นที่นิยม (รายละเอียดอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามอัพเดทจาก Pepperstone เพราะฉะนั้นควรตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นประจำ):

การฝากเงิน:

    1. เข้าสู่ระบบ:
      • เข้าสู่ Secure Client Area ของคุณที่เว็บไซต์ของ Pepperstone.
    2. เลือก ‘ฝากเงิน’:
      • คลิกที่เมนู ‘ฝากเงิน’ หรือเลือกวิธีการฝากเงินที่คุณต้องการ.
    3. เลือกวิธีการฝากเงิน:
      • เลือกวิธีการฝากเงินที่คุณต้องการใช้, เช่น Bankwire, PayPal, Skrill หรืออื่น ๆ
    4. ป้อนรายละเอียด:
      • ป้อนข้อมูลที่ต้องการ, อาทิเช่น ข้อมูลบัตรเครดิต, หมายเลขบัญชี PayPal หรือรายละเอียดการโอนเงินผ่านธนาคาร.
    5. ยืนยัน:
      • ตรวจสอบรายละเอียดที่คุณป้อนว่าถูกต้อง, แล้วคลิกยืนยันการฝากเงิน.

การถอนเงิน:

    1. เข้าสู่ระบบ:
      • เข้าสู่ Secure Client Area ของคุณที่เว็บไซต์ของ Pepperstone.
    2. เลือก ‘ถอนเงิน’:
      • คลิกที่เมนู ‘ถอนเงิน’ หรือเลือกวิธีการถอนเงินที่คุณต้องการ.
    3. เลือกวิธีการถอนเงิน:
      • เลือกวิธีการถอนเงินที่คุณต้องการใช้, เช่น Bankwire, PayPal, Skrill หรืออื่น ๆ
    4. ป้อนรายละเอียด:
      • ป้อนข้อมูลที่ต้องการ, อาทิเช่น ข้อมูลบัตรเครดิต, หมายเลขบัญชี PayPal หรือรายละเอียดการโอนเงินผ่านธนาคาร.
    5. ยืนยัน:
      • ตรวจสอบรายละเอียดที่คุณป้อนว่าถูกต้อง, แล้วคลิกยืนยันการถอนเงิน.

หมายเหตุ: ควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการฝากและถอนเงินเพื่อตรวจสอบว่าไม่มีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขเพิ่มเติม.

peppersttone mt4 mt5 ctrader

 

โปรแกรมเทรดของ Pepperstone

  1. MetaTrader 4 (MT4)

    • ประสิทธิภาพสูง: MT4 เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้เร็ว และมีความน่าเชื่อถือ
    • เครื่องมือการวิเคราะห์: มีเครื่องมือวิเคราะห์ตลาดที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
    • Expert Advisors (EAs): สามารถใช้งานสคริปต์อัตโนมัติสำหรับการเทรดได้
    • ผู้ใช้งานเยอะ: เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกของการเทรด Forex
  2. MetaTrader 5 (MT5)

    • ฟีเจอร์เพิ่มเติม: มีความสามารถมากขึ้นเมื่อเทียบกับ MT4 เช่น Market depth และประเภทการส่งคำสั่งเทรด
    • สนับสนุนสินค้าหลายประเภท: เช่นหุ้น, ดัชนี, และอื่น ๆ
    • การวิเคราะห์ที่ดีขึ้น: เครื่องมือวิเคราะห์ที่มากขึ้นและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
    • ระบบเวลาหลายระบบ: สามารถดูกราฟได้หลายช่วงเวลา
  3. cTrader

    • ส่วนต่อประสานผู้ใช้ที่สวยงาม: มีการออกแบบที่เรียบง่ายและทันสมัย
    • Level II Pricing: มองเห็น Market depth ได้โดยตรง
    • การทำงานที่รวดเร็ว: แพลตฟอร์มทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพ
    • เครื่องมือการเทรดที่เฉพาะเจาะจง: เช่น สร้าง EA ด้วยภาษาโปรแกรม C#

ดังนั้น, การเลือกใช้แพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับความต้องการและความสะดวกสบายของแต่ละคน. หากคุณเป็นนักเทรดที่มีประสบการณ์กับ MT4 และต้องการความสามารถมากขึ้น อาจจะเลือกใช้ MT5 แต่ถ้าคุณต้องการการออกแบบที่ทันสมัยและเครื่องมือที่เฉพาะเจาะจง ก็อาจจะเลือก cTrader.