fibonacci retracement คืออะไร การใช้ fibonacci extension fibonaci ขั้นสูง ในการวิเคราะห์กราฟ

fibonacci retracement คืออะไร

Fibonacci retracement เป็นเครื่องมือหนึ่งในการวิเคราะห์กราฟราคาในตลาดทางการเงิน โดยใช้ระดับเลขฟิโบนัคกี (Fibonacci numbers) เพื่อช่วยทำนายระดับราคาที่อาจเป็นจุดที่ราคาอาจเริ่มเปลี่ยนแนวทางหรือกลับกลับสู่แนวเดิม วิธีการนี้มีความเกี่ยวข้องกับหลักสัมพันธ์ทางเลขที่เรียกว่า “Golden Ratio” หรือ อัตราส่วนทองคำ (1.618) และอัตราส่วนอื่นๆ ในชุดเลขฟิโบนัคกี ซึ่งเชื่อว่าเป็นสัดส่วนที่มีความสัมพันธ์กันที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ และมีการสะท้อนในการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดด้วย

ระดับ Fibonacci retracement ที่สำคัญจะอยู่ที่ 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, และ 78.6% ของการเคลื่อนไหวราคาเกี่ยวกับช่วงระยะเวลาที่กำหนด เมื่อราคาขึ้นหรือลงอย่างมีประสิทธิภาพ มักจะมีการพักหรือกลับกลับสู่ระดับ Fibonacci เหล่านี้ก่อนที่ราคาจะดำเนินต่อไปในทิศทางใหม่ระดับเหล่านี้จะช่วยให้นักลงทุนและผู้วิเคราะห์กราฟราคามีมุมมองที่ชัดเจนเกี่ยวกับราคาที่มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง

การใช้ fibonacci extension fibonaci ในการวิเคราะห์กราฟ

การใช้ Fibonacci extension เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวิเคราะห์กราฟราคาเช่นกัน โดย Fibonacci extension ช่วยในการกำหนดระดับราคาที่อาจเป็นเป้าหมายของการเคลื่อนไหวราคาในอนาคต ซึ่งการคำนวณระดับเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับระดับ Fibonacci ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวราคาที่ผ่านมา และใช้ระดับ extension เพื่อใช้เป็นพื้นที่ที่ราคาอาจขยับไปถึงหรือจะพุ่งสูงขึ้นอีก สำหรับการใช้งาน Fibonacci extension ขั้นสูง คุณสามารถทำได้ตามขั้นตอนเหล่านี้:

ระบุราคาสูง/ต่ำ

เริ่มต้นด้วยการระบุราคาสูงสุดหรือต่ำสุดของการเคลื่อนไหวราคาที่คุณต้องการวิเคราะห์ การระบุราคาสูง/ต่ำเป็นขั้นตอนสำคัญในการใช้ Fibonacci extension เพื่อวางระดับราคาที่เป็นเป้าหมายของการเคลื่อนไหวราคาในอนาคต ราคาสูง/ต่ำที่คุณจะใช้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการวางระดับ extension ของ Fibonacci ดังนั้น คุณควรใช้วิธีการกำหนดราคาสูง/ต่ำในการวิเคราะห์ของคุณ ตามเหตุผลเช่น

    1. ราคาสูงสุด (High): นี่คือราคาที่สูงที่สุดที่ถูกบันทึกในช่วงเวลาที่คุณกำลังวิเคราะห์ ใช้เมื่อคุณต้องการทำนายระดับราคาที่อาจเป็นเป้าหมายเมื่อราคากลับไปทางลง หรือเคลื่อนต่อในทิศทางใหม่จากระดับสูงสุด
    2. ราคาต่ำสุด (Low): นี่คือราคาที่ต่ำที่สุดที่ถูกบันทึกในช่วงเวลาที่คุณกำลังวิเคราะห์ ใช้เมื่อคุณต้องการทำนายระดับราคาที่อาจเป็นเป้าหมายเมื่อราคากลับไปทางขึ้น หรือเคลื่อนต่อในทิศทางใหม่จากระดับต่ำสุด

การระบุราคาสูง/ต่ำเป็นคำตอบที่ขึ้นอยู่กับกราฟและเหตุผลในการวิเคราะห์ของคุณ หากคุณมีข้อมูลราคาที่สูงสุดหรือต่ำสุดในช่วงเวลาที่คุณสนใจ คุณสามารถใช้ข้อมูลนี้ในการวางระดับ Fibonacci extension ได้เลย หากไม่มีข้อมูลเหล่านี้ คุณอาจต้องพิจารณาการระบุราคาสูง/ต่ำที่เป็นไปได้ที่สุดในบางกรณีการวิเคราะห์

วางเครื่องหมาย Fibonacci

การวางเครื่องหมาย Fibonacci retracement คือการวางเส้นตารางคำนวณที่ใช้ระดับเลขฟิโบนัชชี (Fibonacci numbers) เพื่อใช้ในการวิเคราะห์กราฟราคา และช่วยในการคาดเดาระดับราคาที่สำคัญที่อาจมีผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต การวางเครื่องหมายเหล่านี้มีความสัมพันธ์กับอัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio) และอัตราส่วนที่เกี่ยวข้องในชุดเลขฟิโบนัชชี ขั้นตอนในการวางเครื่องหมาย Fibonacci retracement คือ

    • ระบุการเคลื่อนไหวของราคา: ก่อนที่คุณจะวางเครื่องหมาย Fibonacci retracement, คุณควรระบุว่าราคากำลังเคลื่อนไหวขึ้นหรือลง.
    • เลือกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด: เลือกจุดเริ่มต้น (จุดสูงสุดหรือต่ำสุดของราคาที่คุณสนใจ) และจุดสิ้นสุด (จุดที่ราคาเคลื่อนไปถึงหลังจากการเคลื่อนไหว) เพื่อระบุช่วงราคาที่คุณจะวางเครื่องหมาย.
    • วางเครื่องหมายบนกราฟ: หลังจากเลือกจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด คุณสามารถวางเครื่องหมาย Fibonacci retracement บนกราฟราคา โดยระดับเลขฟิโบนัชชีจะปรากฏเป็นเส้นทแยงมุมที่แสดงระดับราคาที่สำคัญ ระดับที่สำคัญประกอบด้วย 23.6%, 38.2%, 50%, 61.8%, และ 78.6%.
    • วิเคราะห์และการใช้เป็นเค้าโครง: ระดับราคาที่ปรากฏในเครื่องหมาย Fibonacci retracement จะช่วยให้คุณมีมุมมองเกี่ยวกับระดับราคาที่อาจมีความสำคัญและเป็นจุดที่ราคาอาจเปลี่ยนแนวทาง คุณสามารถนำระดับเหล่านี้มาใช้ในการวางแผนการซื้อ-ขายหรือการตัดสินใจทางการลงทุน.
    • ระบุระดับ Fibonacci extension: เมื่อคุณระบุราคาสูง/ต่ำและวางเครื่องหมาย Fibonacci retracement แล้ว คุณสามารถเลือกระดับ Fibonacci extension ที่คุณต้องการแสดงบนกราฟ ระดับเหล่านี้มักเป็น 127.2%, 161.8%, 200%, 261.8%, และ 423.6%.
    • วิเคราะห์และการใช้เป็นเค้าโครง: ระดับ Fibonacci extension ที่คุณวางเครื่องหมายจะบ่งชี้ถึงระดับราคาที่อาจเป็นเป้าหมายของการเคลื่อนไหวราคาในอนาคต คุณสามารถใช้เป็นเค้าโครงในการวางแผนการซื้อ-ขาย หรือการจัดการการเปลี่ยนแปลงของราคา.

เลือกระดับ Fibonacci extension

การเลือกระดับ Fibonacci extension เป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับระดับราคาที่คุณต้องการวางเครื่องหมายเพื่อใช้ในการวิเคราะห์กราฟราคา ระดับเหล่านี้จะช่วยบ่งชี้ถึงระดับที่ราคาอาจมีแนวโน้มเป็นจุดหยุดหรือเป้าหมายของการเคลื่อนไหวในอนาคต ตามลำดับคือ:

    1. 127.2%: ระดับนี้เป็นระดับหนึ่งในที่สำคัญ เนื่องจากมีความสัมพันธ์กับอัตราส่วนทองคำ ราคาอาจเป็นจุดหยุดหรือเป้าหมายหากเคลื่อนที่เกินระดับ 100% ของการเคลื่อนไหวที่แรก.
    2. 161.8%: ระดับนี้ก็เช่นกันเป็นระดับสำคัญ มีความสัมพันธ์กับอัตราส่วนทองคำ เป็นระดับที่ราคาอาจเป็นจุดหยุดหรือเป้าหมายหากเคลื่อนที่เกินระดับ 100% ของการเคลื่อนไหวที่แรก.
    3. 200%: ระดับนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟิโบนัชชี แต่เป็นการนำราคาไปยังสองเท่าของการเคลื่อนไหวเดิม ระดับนี้อาจเป็นเป้าหมายของการเคลื่อนไหวต่อไป.
    4. 261.8%: ระดับนี้ก็มีความสัมพันธ์กับอัตราส่วนทองคำ และมักจะถูกใช้เป็นระดับเป้าหมายในการเคลื่อนไหวราคาในระยะยาว.
    5. 423.6%: ระดับนี้เกี่ยวข้องกับอัตราส่วนทองคำเช่นกัน และมักใช้เป็นระดับเป้าหมายที่สูงสุดของการเคลื่อนไหวราคาในระยะยาว.

วิเคราะห์และการใช้เป็นเค้าโครง

การวิเคราะห์และการใช้ Fibonacci extension เป็นเค้าโครงที่ช่วยในการวางแผนการซื้อ-ขายในตลาดการเงิน ด้วยการใช้ระดับราคาที่เกิดจากการคำนวณระดับเลขฟิโบนัชชี (Fibonacci numbers) เพื่อแสดงระดับที่อาจเป็นเป้าหมายของการเคลื่อนไหวราคาในอนาคต ขั้นตอนเบื้องต้นในการวิเคราะห์และการใช้เป็นเค้าโครงของ Fibonacci extension คือ:

    • ระบุการเคลื่อนไหว: กำหนดว่าราคากำลังเคลื่อนไหวขึ้นหรือลงอยู่ เพื่อที่คุณจะเลือกจุดเริ่มต้นในการวางระดับ Fibonacci retracement.
    • วางเครื่องหมาย Fibonacci retracement: วางเครื่องหมาย Fibonacci retracement บนกราฟราคาโดยใช้ระดับที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวราคาที่คุณสนใจ เพื่อค้นหาระดับที่สำคัญที่เป็นเป้าหมาย.
    • ระบุราคาสูง/ต่ำ: เลือกราคาสูงสุดหรือต่ำสุดของการเคลื่อนไหวที่คุณสนใจ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการวางระดับ Fibonacci extension.
    • เลือกระดับ Fibonacci extension: เลือกและวางระดับ Fibonacci extension ที่คุณต้องการแสดงบนกราฟ เช่น 127.2%, 161.8%, 200%, 261.8%, และ 423.6%.
    • วางระดับ Fibonacci extension: วางระดับ Fibonacci extension จากจุดเริ่มต้นที่คุณระบุไปยังระดับ extension ที่คุณเลือก เป็นระดับที่อาจเป็นเป้าหมายในการเคลื่อนไหวราคาในอนาคต.
    • วิเคราะห์และการตัดสินใจ: วิเคราะห์ราคาในบริเวณระดับ Fibonacci extension และนำมาใช้ในการวางแผนการซื้อ-ขาย ระบุว่าราคาจะพุ่งสูงไปถึงระดับไหน หรืออาจเป็นเกณฑ์สำหรับการเปลี่ยนแนวทางของราคา.
    • ความรับผิดชอบและการจัดการความเสี่ยง: ควรคำนึงถึงความรับผิดชอบในการตัดสินใจการลงทุนและการจัดการความเสี่ยงในการซื้อ-ขาย ไม่ควรพึ่งพาเพียงเท่านี้เท่านั้นในการตัดสินใจการลงทุน.

ข้อดีและข้อเสียของ fibonacci retracement

การใช้ Fibonacci retracement เป็นเครื่องมือที่มีความช่วยเหลือในการวิเคราะห์กราฟราคาและการวางแผนการซื้อ-ขาย แต่ควรระมัดระวังในการใช้งานและควรร่วมกับเครื่องมือและแนวทางวิเคราะห์อื่น ๆ เพื่อทำการตัดสินใจการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบและมั่นใจ โดยการใช้ Fibonacci retracement มีข้อดีและข้อเสียดังนี้

ข้อดีของ fibonacci retracement

    • ระดับราคาที่มีความสำคัญ: Fibonacci retracement ช่วยให้คุณระบุระดับราคาที่มีความสำคัญบนกราฟราคา ซึ่งอาจช่วยในการวางแผนการเข้า-ออกพื้นที่การซื้อ-ขาย.
    • มุมมองทางเทคนิค: Fibonacci retracement เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองชัดเจนเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของราคา และเป้าหมายที่เป็นไปได้.
    • เค้าโครงสำหรับการวางแผน: ระดับ Fibonacci retracement ช่วยสร้างเค้าโครงสำหรับการวางแผนการซื้อ-ขาย และช่วยให้คุณดูการเปลี่ยนแนวทางของราคาในบริเวณระดับที่มีความสำคัญ.
    • ความง่ายในการใช้งาน: การวางระดับ Fibonacci retracement ง่ายต่อการใช้งาน และใช้คำนวณทางเลขเพียงไม่กี่ขั้นตอน.
    • ใช้งานแบบแน่นอน: ระดับ Fibonacci retracement เป็นค่าที่คำนวณอย่างแน่นอนตามสูตรทางคณิตศาสตร์ ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก

ข้อเสียของ fibonacci retracement

    • ไม่มีความแม่นยำสูงสุด: การใช้ Fibonacci retracement อาจไม่ให้ความแม่นยำสูงสุดในการทำนายระดับราคาที่แน่นอน ระดับที่สำคัญอาจมีการข้ามผ่านบางครั้ง.
    • ข้อจำกัดในการใช้: Fibonacci retracement ไม่ใช่เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ทุกสถานการณ์ และอาจไม่เหมาะกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด.
    • ผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์: ผู้วิเคราะห์อาจทำความผิดพลาดในการระบุจุดสูงสุดและต่ำสุด ซึ่งอาจส่งผลให้การวางเครื่องหมาย Fibonacci retracement ไม่ถูกต้อง.
    • ไม่เหมาะกับการซื้อ-ขายอัตโนมัติ: การใช้ Fibonacci retracement เพื่อทำการซื้อ-ขายอัตโนมัติอาจเป็นไปได้ยาก เนื่องจากต้องพิจารณาปัจจัยหลากหลายที่มีผลต่อการตัดสินใจ.
    • ความน่าเชื่อถือที่ไม่แน่นอน: ระดับ Fibonacci retracement อาจมีความแม่นยำสูงในบางครั้ง แต่ในบางครั้งก็ไม่มีความสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวราคาเลย