Category Archives: การเงิน

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการมีอะไรบ้าง สูตรคำนวณ ตามมาตรฐานบัญชี อธิบายยกตัวอย่าง และสรุป

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการมีอะไรบ้าง สูตรคำนวณตามมาตรฐานบัญชี

ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ คืออะไร ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ (Selling and Administrative Expenses) คือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติของกิจการและเป็นส่วนหนึ่งของรายจ่ายทั้งหมดของบริษัทหรือธุรกิจเพื่อส่งเสริมและรองรับการขายสินค้าหรือบริการ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการมักถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก คือ ค่าใช้จ่ายในการขาย (Selling Expenses) ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการโฆษณาและการส่งเสริมการขายสินค้าหรือบริการ เช่น ค่าโฆษณาบนสื่อต่างๆ (โทรทัศน์, วิทยุ, อินเทอร์เน็ต, โซเชียลมีเดีย), ค่าคอมมิชันสำหรับพนักงานขาย, ค่าเบี้ยประกันสำหรับความรับรู้เกี่ยวกับการขาย, ค่าใช้จ่ายในการจัดโปรโมชัน, ค่าใช้จ่ายในการจัดงานเสวนาหรือโปรโมชั่นสินค้า เป็นต้น. ค่าใช้จ่ายในการบริหาร (Administrative Expenses) ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจการทั่วไป เช่น ค่าเช่าสำนักงาน, เงินเดือนและค่าแรงของพนักงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการขาย, ค่าใช้จ่ายในการบริหารทรัพยากรบุคคล, ค่าใช้จ่ายในการจัดการทรัพยากรทางการเงิน, ค่านายหน้าสำหรับบริการที่เกี่ยวกับกิจการ, ค่าใช้จ่ายในการบริหารเอกสารและระบบสารสนเทศ, ค่าใช้จ่ายในการรักษาและบำรุงรักษาสำนักงานและอาคาร, ค่าใช้จ่ายในการจัดทำรายงานและสถิติ, ค่าใช้จ่ายในการประชุมและการสื่อสารภายในบริษัท เป็นต้น. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากมีผลต่อการสร้างยอดขายและการบริหารจัดการทั่วไปของบริษัท การวิเคราะห์และควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ช่วยให้บริษัทสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จในการทำกำไรและเติบโต ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ มีอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ (Selling and Administrative Expenses) คือค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานปกติของกิจการและเป็นส่วนหนึ่งของรายจ่ายทั้งหมดของบริษัทหรือธุรกิจเพื่อส่งเสริมและรองรับการขายสินค้าหรือบริการ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริการมักถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก คือ ค่าโฆษณาค่าใช้จ่ายในการโฆษณาเป็นการสร้างความรู้สึกและสร้างความตั้งใจให้กับลูกค้าเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของบริษัท รูปแบบของค่าใช้จ่ายนี้อาจแตกต่างไปตามสื่อที่ใช้ (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses) คืออะไร มีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างวิธีคิด แต่ละรายการ

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses) คืออะไร

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses) คืออะไร ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses) เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานประจำวันของธุรกิจหรือองค์กรและไม่นับเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนสินค้าหรือบริการที่บริษัทผลิตหรือให้บริการ. ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเป็นส่วนสำคัญของงบกำไรขาดทุนขององค์กรและมีผลต่อกำไรสุทธิและความสามารถในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ. ค่าใช้จ่ายดำเนินงานมีลักษณะหลายประเภทและรวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานประจำวันของธุรกิจ เช่น ค่าจ้างพนักงาน, ค่าเช่าที่, ค่าน้ำ ค่าไฟ, ค่าโทรศัพท์, ค่าเช่าคลังสินค้า, ค่าโฆษณาและการตลาด, ค่าขนส่งสินค้า, ค่าอุปกรณ์สำนักงาน, ค่าบริการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานทั่วไป, และอื่นๆ ค่าใช้จ่ายดำเนินงานมีผลต่อกำไรของธุรกิจโดยตรง เนื่องจากเพิ่มค่าใช้จ่ายดำเนินงานอาจทำให้กำไรสุทธิลดลง ดังนั้นการควบคุมและจัดการค่าใช้จ่ายดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินการอย่างยั่งยืนและทำกำไรได้ในระยะยาว โดยค่าใช้จ่ายดำเนินงานสามารถแบ่งเป็นสองประเภทหลักได้ดังนี้: Selling Expenses (ค่าใช้จ่ายในการขาย): เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการการขายสินค้าหรือบริการของบริษัท. ตัวอย่างเช่นค่าคอมมิชชันที่จ่ายให้พนักงานขาย, ค่าโฆษณาและการตลาด, ค่าขนส่งสินค้า, ค่าโทรศัพท์หรือค่าเช่าคลังสินค้า เป็นต้น. General and Administrative Expenses (ค่าใช้จ่ายในการบริหาร): เป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานทั่วไปของบริษัท. ตัวอย่างเช่นค่าเช่าที่, ค่าน้ำ ค่าไฟ, ค่าเอกสาร, ค่าจ้างพนักงานในฝ่ายบริหาร, เป็นต้น. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน มีอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses) ประกอบด้วยหลายประเภทที่บริษัทต้องจ่ายเพื่อดำเนินกิจการประจำวัน โดยไม่รวมถึงค่าใช้จ่ายในการผลิตหรือให้บริการหลักที่จะตัดส่วนออกเป็นต้นทุนสินค้าหรือบริการ. (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)

อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน คืออะไร (Operating Profit Maring) อธิบายสูตรการคำนวณ ภาษาอังกฤษเรียกว่า อธิบายวิธีวิเคราะห์พร้อมยกตัวอย่าง สรุป

สูตรการคำนวณ Operating Profit Margin (อัตรากำไรจากการดำเนินงาน)

อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงาน คืออะไร อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit Margin) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดความสามารถของกิจการในการทำกำไรจากกิจกรรมหลักของธุรกิจ โดยเปรียบเทียบระหว่างกำไรจากการดำเนินงานและยอดขาย (Sales) ของบริษัทหรือธุรกิจใด ๆ อัตรากำไรจากการดำเนินงานมักถูกนำมาใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนและการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งมีผลต่อกำไรสุทธิของบริษัท อัตรากำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit Margin) มีความสำคัญในการวิเคราะห์สถานะการเงินของบริษัทและใช้ในการเปรียบเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือคู่แข่ง สูตรการคำนวณ Operating Profit Margin Operating Profit Margin ในรูปของเปอร์เซ็นต์ เป็นอัตราส่วนที่บอกถึงกำไรที่บริษัททำได้จากกิจกรรมดำเนินงานหลักของธุรกิจเมื่อเทียบกับรายได้ทั้งหมดที่บริษัทได้รับจากการขายสินค้าหรือบริการของตน อัตรากำไรจากการดำเนินงานสามารถช่วยให้เราวัดความสามารถในการควบคุมต้นทุนและประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัท สูตรการคำนวณ Operating Profit Margin (อัตรากำไรจากการดำเนินงาน) นี่คืออธิบายแต่ละส่วน ดังนี้ Operating Profit (กำไรจากการดำเนินงาน): นี่คือจำนวนเงินที่บริษัทหรือธุรกิจทำได้จากกิจกรรมหลักของธุรกิจหลังจากหักลบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เช่น ค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้าหรือบริการ (Cost of Goods Sold – COGS) และค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหาร (Selling, General, and Administrative Expenses (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)

profitability ratio คืออะไร แนวคิดอัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร คืออะไร สูตรการหา อธิบายยกตัวอย่าง พร้อมวิธีวิเคราะห์

profitability ratio. คืออะไร แนวคิดอัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร คืออะไร

profitability ratio คืออะไร “Profitability ratio” (อัตราส่วนความกำไร) คืออัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดและประเมินความสามารถของธุรกิจในการทำกำไร หรือรายได้สุทธิที่ธุรกิจสามารถสร้างขึ้นจากรายได้ทั้งหมดที่ธุรกิจได้รับ โดยมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำกำไรของธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงการตรวจสอบความสามารถในการสร้างกำไรของบริษัทเมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือในตลาดที่คล้ายกัน โดยการใช้ profitability ratio เหล่านี้ช่วยให้ผู้บริหารและนักลงทุนสามารถทำการวิเคราะห์รายได้และกำไรในมุมมองทางการเงินได้อย่างละเอียดและช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ เช่น การเลือกลงทุนในโครงการหรือกิจกรรมทางธุรกิจที่มีโอกาสทำกำไรมากที่สุดและปรับปรุงยุทธวิธีการทางธุรกิจเพื่อเพิ่มผลกำไรในองค์กรในระยะยาว profitability ratio มีอะไรบ้าง Profitability ratio (อัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร) ประกอบด้วยหลายอัตราส่วนทางการเงินที่ช่วยในการวัดและประเมินความสามารถของธุรกิจในการทำกำไร โดยอัตราส่วนความสามารถในการทำกำไร ประกอบด้วยดังนี้ อัตรากำไรขั้นต้น อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) คือ อัตราส่วนทางการเงินที่ใช้วัดกำไรที่กิจการทำได้จากการขายสินค้าหรือบริการเมื่อเทียบกับยอดขายสุทธิ โดยสูงขึ้นยิ่งดี เนื่องจากมีกำไรขั้นต้นมากขึ้น สูตรการคำนวณอัตรากำไรขั้นต้นคือ อัตรากำไรขั้นต้น = (กำไรขั้นต้น / ยอดขายสุทธิ) x 100 (%) โดยที่: กำไรขั้นต้น (Gross Profit) คือ รายได้ทั้งหมดจากการขายสินค้าหรือบริการลบด้วยต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหรือให้บริการนั้น รวมถึงต้นทุนของวัสดุและแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตหรือให้บริการดังกล่าว. ยอดขายสุทธิ (Net Sales) (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)

Turnover คืออะไร Turnover บัญชี Turnover พนักงาน Turnover rate Turnover หุ้น Sales Turnover อธิบายความหมายและแบบ พร้อมยกตัวอย่าง

การคำนวณ Turnover ในบัญชี (Accounting Turnover)

Turnover คืออะไร “Turnover” คือคำว่าที่ใช้เพื่อบรรยายกระบวนการหรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในบริษัทหรือองค์กร เป็นการนำสินทรัพย์หรือทรัพยากรมาใช้หรือขาย หรือเป็นการเปลี่ยนแปลงบุคลากรหรือสมาชิกในองค์กร การใช้คำว่า “Turnover” ช่วยให้เข้าใจการเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจ การทำงานหรือการเงิน โดยมีความหมายแตกต่างกันตามบริบทดังนี้ การเปลี่ยนแปลงทรัพยากรหรือสินค้า: เช่น “Turnover สินทรัพย์” หมายถึงการนำสินทรัพย์มาใช้หรือขาย เช่นการขายสินค้าหรือทรัพย์สินเพื่อสร้างรายได้. การเปลี่ยนแปลงบุคลากร: เช่น “Turnover พนักงาน” หมายถึงการเปลี่ยนแปลงพนักงานในองค์กร โดยการสร้างความเสถียรหรือการลาออกของพนักงาน. การขายหุ้นหรือทรัพย์สิน: เช่น “Turnover หุ้น” หมายถึงการขายหุ้นหรือสินทรัพย์สินในตลาดการเงิน. การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ: เช่น “Turnover ธุรกิจ” หมายถึงการเปลี่ยนแปลงหรือการโอนย้ายธุรกิจจากคนหนึ่งไปยังคนอื่น. การเปลี่ยนแปลงทางการเงิน: เช่น “Turnover การเงิน” หมายถึงการทำรายการเงินโดยการรับเงินหรือจ่ายเงิน. Turnover บัญชี บัญชี (Accounting) โดย “Turnover” หมายถึง การวัดความสามารถในการหมุนเวียนของสินทรัพย์หรือทุนในบริษัทหรือธุรกิจใด ๆ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับรายได้หรือการขายของบริษัท นั่นคือการวัดว่าบริษัทมีความสามารถในการสร้างรายได้จากสินทรัพย์หรือทุนที่ใช้ในกระบวนการผลิตหรือบริการของบริษัทอย่างไร การคำนวณ Turnover จะช่วยในการวัดประสิทธิภาพและประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์หรือทุนในการทำธุรกิจ. ตัวอย่างการคำนวณ (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)

Total Asset Turnover คืออะไร สูตรคำนวณ วิธีวิเคราะห์ อธิบายยกตัวอย่าง พร้อมบอกข้อดีข้อเสีย สรุป

Total Asset Turnover คืออะไร สูตรคำนวณ

Total Asset Turnover คืออะไร อัตราหมุนเวียนสินทรัพย์รวม (Total Asset Turnover) เป็นอัตราส่วนการเงินที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์รวมของบริษัทในการสร้างรายได้หรือยอดขายสุทธิ อัตรานี้ช่วยให้ผู้วิเคราะห์และนักลงทุนทราบว่าบริษัทสามารถใช้สินทรัพย์ที่มีให้มีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้ช่วยให้เราทราบว่าบริษัทสามารถนำสินทรัพย์รวมไปสร้างรายได้หรือยอดขายสุทธิได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด ค่าอัตรานี้ที่สูงก็บ่งบอกถึงความสามารถในการใช้สินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้มากขึ้น ในขณะที่ค่าอัตรานี้ที่ต่ำกว่าอาจแสดงถึงการใช้สินทรัพย์ไม่เพียงพอหรือไม่มีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้มากนัก การวิเคราะห์ Total Asset Turnover ช่วยให้ผู้ลงทุนและผู้วิเคราะห์ทราบถึงประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์ของบริษัท แต่ควรระมัดระวังว่าต้องพิจารณาร่วมกับข้อมูลและอัตราส่วนอื่น ๆ เพื่อให้เกิดภาพรวมที่ครอบคลุมเกี่ยวกับสถานะการเงินของบริษัทและไม่ควรใช้เพียงอัตราส่วนนี้เป็นตัวชี้วัดเดี่ยวเดียวในการตัดสินใจการลงทุนหรือการวิเคราะห์บริษัทแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งอัตราส่วนนี้ช่วยในการวัดว่าบริษัทสามารถใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่ในการสร้างรายได้เท่าใด โดยการเปรียบเทียบยอดขายทั้งหมด (Total Sales) กับสินทรัพย์รวมเฉลี่ย (Average Asset) ของบริษัท สูตรคำนวณ Total Asset Turnover อัตราหมุนเวียนสินทรัพย์รวม (Total Asset Turnover) คำนวณได้จากสูตรดังนี้: Total Asset Turnover = ยอดขาย (Sales) / สินทรัพย์เฉลี่ย (Average Assets) โดยที่: ยอดขาย (Sales) คือ รายได้ทั้งหมดที่บริษัทได้จากการขายสินค้าหรือบริการในระยะเวลาที่สนใจ (โดยปกติใช้ยอดขายในรายการรายได้จากงบกำไรขาดทุนหรืองบกำไรสุทธิ). สินทรัพย์เฉลี่ย (Average (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)

Fixed Asset Turnover คืออะไร สูตรคำนวณ วิธีใช้ วิธีวิเคราะห์ อธิบายยกตัวอย่างคำนวณ พร้อมข้อดีข้อเสีย

Fixed Asset Turnover. คืออะไร สูตรคำนวณ.

Fixed Asset Turnover คืออะไร Fixed Asset Turnover หรือ อัตราการหมุนเวียนของทรัพย์สินคงที่ เป็นอัตราส่วนที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพขององค์กรในการใช้ทรัพย์สินคงที่ เพื่อสร้างรายได้ โดยเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้ผู้บริหารและนักลงทุนเข้าใจว่าบริษัทสามารถใช้ทรัพย์สินคงที่เพื่อสร้างรายได้ได้มากน้อยแค่ไหน โดยการเปรียบเทียบรายได้กับมูลค่าของทรัพย์สินคงที่ที่มีอยู่ในบริษัท อัตรา Fixed Asset Turnover ที่สูงกว่าแสดงถึงการใช้ทรัพย์สินคงที่ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่อัตราที่ต่ำกว่าแสดงว่าการใช้ทรัพย์สินคงที่ไม่มีประสิทธิภาพมากนักในการสร้างรายได้ การใช้ Fixed Asset Turnover สามารถช่วยในการตัดสินใจและวางแผนในการลงทุนในทรัพย์สินคงที่ การเปรียบเทียบ Fixed Asset Turnover ของบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกันสามารถช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของอุตสาหกรรมและบริบททางการเงินที่แตกต่างกันได้ดีขึ้น นอกจากนี้ Fixed Asset Turnover ยังมีความสำคัญในการตรวจสอบประสิทธิภาพในการใช้ทรัพย์สินคงที่ในองค์กรของคุณเวลาผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลการเปรียบเทียบระหว่างช่วงเวลาที่แตกต่างกัน เช่น การดูการเปรียบเทียบ Fixed Asset Turnover ระหว่างปีปัจจุบันและปีที่แล้ว เป็นต้น สูตรคำนวณ Fixed Asset Turnover ค่า Fixed Asset Turnover สามารถคำนวณได้โดยใช้สูตรต่อไปนี้: Fixed Asset Turnover (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)

Efficiency Ratio คืออะไร สูตรคืออะไร อธิบายวิธีคำนวณ พร้อมยกตัวอย่าง ข้อดีข้อเสีย

สูตรการคำนวณอัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover)

Efficiency Ratio คืออะไร อัตราส่วนประสิทธิภาพ (Efficiency Ratio) คือตัวชี้วัดทางการเงินที่ใช้ในการวิเคราะห์ความสามารถของบริษัทในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้หรือกำไร อัตราส่วนนี้ช่วยในการวัดว่าบริษัทนั้นสามารถดำเนินธุรกิจของตนได้ดีแค่ไหน เมื่อเทียบกับรายจ่ายที่เกิดขึ้นในกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทนั้นๆ อัตราส่วนประสิทธิภาพมักถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์และเปรียบเทียบความสามารถในการจัดการทรัพยากรของบริษัทต่าง ๆ และช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการธุรกิจและการบริหารจัดการในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ดีขึ้นได้ อัตราส่วนที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของกิจการในด้านการจัดการทรัพยากรและสินทรัพย์ต่าง ๆ ในการสร้างรายได้ และอย่างที่คุณได้ระบุไว้ อัตราส่วนเหล่านี้มีความสำคัญในการวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพทางธุรกิจขององค์กร โดยอัตราส่วนประสิทธิภาพประกอบด้วย อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของบริษัทในการจัดการลูกหนี้ อัตรานี้ช่วยให้คุณเข้าใจว่าบริษัทมีความสามารถในการรับเงินจากลูกหนี้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ยิ่งสูงขึ้นแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการรับเงินจากลูกหนี้ได้อย่างรวดเร็วและไม่คงค้างเงินจากลูกหนี้นานเกินไป อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover Ratio) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของกิจการในการบริหารจัดการสินค้าคงเหลือ อัตราส่วนนี้ช่วยในการวิเคราะห์ว่าสินค้าถูกนำออกจากคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือที่รวดเร็วมักจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้าและเพิ่มรายได้ อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Turnover Ratio) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดความประสิทธิภาพขององค์กรในการใช้สินทรัพย์ถาวร เพื่อสร้างรายได้หรือกำไร ค่าอัตราส่วนนี้ช่วยในการวิเคราะห์ว่าบริษัทมีความสามารถในการใช้สินทรัพย์ถาวรในการสร้างรายได้หรือกำไรอย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน เช่น เครื่องจักร ค่าสูงแสดงว่าบริษัทสามารถใช้สินทรัพย์ถาวรในการสร้างรายได้หรือกำไรได้ดี อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Assets Turnover) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดความสามารถขององค์กรในการใช้สินทรัพย์ทั้งหมดในการสร้างรายได้หรือกำไร อัตราส่วนนี้ช่วยในการวิเคราะห์ว่าองค์กรมีประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ   Efficiency Ratio สูตรคืออะไร สูตร Efficiency (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)

อัตราส่วนวัดมูลค่าตลาด คืออะไร Market Value Ratio สูตรคำนวณ อธิบายยกตัวอย่างการคำนวณ ข้อดีข้อเสียข้อจำกัด

อัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น

อัตราส่วนวัดมูลค่าตลาด คืออะไร อัตราส่วนวัดมูลค่าตลาดเป็นเครื่องมือที่นักลงทุนใช้เพื่อประเมินมูลค่าของบริษัทในตลาดหุ้น เพื่อวิเคราะห์และเปรียบเทียบระหว่างบริษัทหรือภาคการลงทุน. ส่วนใหญ่จะใช้สูตรการคำนวณจากข้อมูลในงบการเงินของบริษัทและราคาหุ้นในตลาดหุ้น. ประเภทของอัตราส่วนวัดมูลค่าตลาด อัตราส่วนตลาดต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio, P/E Ratio) คำนวณ: ราคาต่อหุ้น / กำไรต่อหุ้น (EPS) ใช้ประเมินว่าหุ้นถูกหรือแพงตามการประเมินของตลาด อัตราส่วนตลาดต่อสินทรัพย์สุทธิ (Market to Book Ratio, M/B Ratio) คำนวณ: มูลค่าตลาดของบริษัท / มูลค่าหุ้นทุนสุทธิ ประเมินว่านักลงทุนกำลังจ่ายราคาสูงเพื่อซื้อสินทรัพย์ของบริษัทเท่าใด อัตราส่วนตลาดต่อรายได้ (Price to Sales Ratio, P/S Ratio) คำนวณ: มูลค่าตลาดของบริษัท / รายได้จากการขาย ใช้วิเคราะห์ในบริษัทที่ยังไม่มีกำไร อัตราส่วนกำไรต่อแต่ละหุ้น (Earnings Per Share, EPS) คำนวณ: กำไรสุทธิ / จำนวนหุ้นที่เปิดอยู่ แสดงกำไรที่บริษัทสร้างขึ้นต่อหุ้น ตัวอย่างการคำนวณ 1. (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)

Debt Management Ratio คืออะไร อัตราส่วนวัดสภาพหนี้มีสูตรว่าอย่างไร วิธีวิเคราะห์อธิบายข้อดีข้อเสีย

Debt Management Ratio คืออะไร อัตราส่วนวัดสภาพหนี้มีสูตรว่าอย่างไร

Debt Management Ratio คืออะไร อัตราส่วนการจัดการหนี้ (Debt Management Ratio) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวิเคราะห์และวิจารณ์การจัดการหนี้ของบริษัทหรือองค์กรใด ๆ เพื่อทราบถึงความสามารถในการจัดการหนี้และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับหนี้ในบัญชีของบริษัท โดยพิจารณาตัวแบบของหนี้ และวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างหนี้และสินทรัพย์หรือส่วนของสินทรัพย์ที่ใช้เป็นค่ามัดจำ (collateral) หรือค่าประกัน (security) ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ อัตราส่วนการจัดการหนี้ยังสามารถช่วยในการประเมินความเสี่ยงทางการเงินของบริษัทหรือองค์กร โดยการตรวจสอบว่ามีหนี้มากเกินไปหรือไม่ และอาจช่วยในการวางแผนการจัดการหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินและเพิ่มความน่าเชื่อถือจากผู้ลงทุนและเจ้าหนี้. อัตราส่วนการจัดการหนี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น Debt to Equity Ratio (D/E Ratio) อัตราส่วนหนี้ต่อทุนเรือนหุ้น (Debt to Equity Ratio) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดความสัมพันธ์ระหว่างหนี้และทุนเรือนหุ้นของบริษัทหรือองค์กร ซึ่งช่วยในการประเมินความเป็นหนี้ของบริษัทหรือความคุ้มค่าของหุ้นทางการเงิน. อัตราส่วนนี้คำนวณโดยแบ่งหนี้ต่อทุนเรือนหุ้นดังนี้: D/E Ratio = Total Debt / Shareholder’s Equity โดยที่: Total Debt คือ จำนวนหนี้ทั้งหมดที่บริษัทหรือองค์กรค้างชำระในขณะนั้น Shareholder’s Equity คือ ทุนเรือนหุ้นของบริษัทหรือองค์กรในขณะนั้น อัตราส่วน (อ่านข้อมูลฉบับเต็ม)